- 07 มิ.ย. 2565
สื่อนอกไม่สบายใจหวั่น สมเด็จพระสันตะปาปา จะทรงลาออก หลังเตรียมเสด็จเยือนสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการรีไทร์
ทำทั้งสื่ออิตาลี ทั้งสื่อวาติกัน และสาธุชนชาวคริสต์นิกายคาทอลิก กำลังติดตามข่าวด้วยความไม่สบายใจว่า สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงลาออกหรือไม่ หลังจากทรงต้องประทับวีลแชร์และเตรียมเสด็จเยือนสถานที่ ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการรีไทร์
ทั้งนี้เกิดกระแสข่าวลือสะพัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 85 พรรษา หรือโป๊ปฟรานซิส จะทรงลาออกจากตำแหน่งองค์ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก โดยสื่ออิตาลีและสื่อคาทอลิกได้พากันคาดเดาข่าวที่ไม่มีแหล่งที่มาว่า โป๊ปฟรานซิสอาจมีแผนเดินตามรอยสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ เนื่องจากทรงประสบปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ทำให้ต้องประทับวีลแชร์ตั้้งแต่เดือนที่แล้ว
ข่าวลือเริ่มกระพือหนักขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อโป๊ปฟรานซิสทรงประกาศให้จัดการประชุมเพื่อแต่งตั้งพระคาร์ดินัลใหม่ 21 คน ที่กำหนดไว้ในวันที่ 27 สิงหาคม ในจำนวนนี้มีพระคาร์ดินัล 16 คน ที่อายุต่ำกว่า 80 ปี ที่มีสิทธิ์เลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสืบต่อจากโป๊ปฟรานซิส ที่เรียกว่า "มุขนายกแห่งคริสตจักรกรุงโรม" (Bishop of the Church of Rome)
ในการประชุมวันที่ 27 สิงหาคม โป๊ปฟรานซิสยังจะทรงเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาเป็นเวลา 2 วัน ในสัปดาห์ถัดไป เพื่อสรุปให้เหล่าพระคาร์ดินัลทราบเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญวาติกัน (apostolic constitution) ฉบับเผยแพร่ล่าสุด ที่มีการปฏิรูประบบราชการของวาติกัน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์ (5 มิถุนายน) เปิดทางให้สตรีได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานของวาติกัน กำหนดระยะเวลาการทำงานของพนักงานวาติกันที่เป็นนักบวช และกำหนดจุดยืนของนครรัฐวาติกัน ในฐานะสถาบันที่ให้บริการแก่คริสตจักรท้องถิ่น ไม่ใช่ให้คริสตจักรท้องถิ่นคอยบริการวาติกัน
โป๊ปฟรานซิสทรงได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2556 โดยเป็นองค์ที่ 266 และเป็นสันตะปาปาองค์แรกจากทวีปอเมริกาใต้ และเป็นองค์แรกที่ไม่ใช่ชาวยุโรปในรอบ 1,300 ปี ซึ่งนับตั้งแต่ทรงดำรงตำแหน่ง โป๊ปฟรานซิสทรงได้รับการยกย่องในหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งการใช้ชีวิตแบบสมถะ ส่วนเรื่องการเตรียมรีไทร์นั้นมีจุดสังเกตว่า สำนักวาติกันและหน่วยงานภาครัฐและธุรกิจต่าง ๆ ของอิตาลี จะปิดทำการในวันหยุดยาวช่วงเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนกันยายน ดังนั้นการที่โป๊ปฟรานซิสทรงเรียกประชุมพระคาร์ดินัลในช่วงนี้ เป็นเวลา 2 วัน อาจมีสัญญาณว่าพระองค์ทรงมีแผนการที่ไม่ธรรมดาอยู่ในพระทัย
และที่สำคัญคือสถานที่จัดประชุมคือมหาวิหารลากีลา (L'Aquila) ที่เป็นสุสานของสมเด็จพระสันตะปาปาเซเลสทีนที่ 5 (Celestine V) ที่ทรงลาออกเมื่อ ค.ศ.1294 เพราะทรงงานหนัก ต่อมาในปี ค.ศ.2009 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก็ทรงลาออกหลังไปเยือนสถานที่แห่งนี้เช่นกัน เนื่องจากมีปัญหาด้านพระพลานามัย ดังนั้นการเยือนของโป๊ปฟรานซิสจึงเป็นที่จับตาว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่