โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเจอ 3 ปัญหายากแก้ไข

โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข ประชุมลับหนุนกมลา รองประธานาธิบดี

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเจอ 3 ปัญหายากแก้ไข กลายเป็นประเด็นที่ชาวโลกให้ความสนใจขึ้นมาทันที เมื่อมีรานงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน  (Joe Biden) กำลังกลายเป็นจุดอ่อนที่สมาชิกพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่อยากจะโละทิ้ง ตั้งแต่เรื่องคะแนนนิยมตกต่ำ อายุขัยและปัญหาเศรษฐกิจที่แก้ไม่ตก ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ที่อาจเป็นตัวเลือกที่จะมาทดแทน กำลังมีการเคลื่อนไหวแต่ก็มีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขเช่นกัน

 

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข

ขณะที่การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ เพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. กับสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เข้าสู่สภาคองเกรส กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตทั้ง ส.ส.และส.ว. ที่อยู่ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พรรค และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่สนับสนุนพรรคฯ ต่างมองการณ์ไกลไปถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

พร้อมทั้งลงความเห็นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ควรลงสมัครชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2567 เพราะ "ชราภาพ" และกำลังจะมีอายุครบ 80 ปี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ และถ้าเขาลงสมัครชิงตำแหน่งในปี 2567 กว่าจะได้ดำรงตำแหน่งในปี 2568 เขาก็จะมีอายุย่าง 83 ปี ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดชี้ว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลกในปัจจุบันที่ประธานาธิบดีจะไม่เป็นที่นิยม แต่ค่าเฉลี่ยคะแนนนิยมของ ไบเดน ต่ำจนน่าตกใจ แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่พอใจผลงานของเขา 

 

โดยผลสำรวจที่จัดทำร่วมกันระหว่าง NPR/PBS/Marist College แสดงให้เห็นคะแนนนิยมของไบเดนร่วงลงไปอยู่ที่ 38% แต่ของมหาวิทยาลัย Quinnipiac ที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ ยิ่งหนักกว่าคือลงไปอยู่ที่ 33% ส่วนของ Gallup ที่ถือว่าดีที่สุดก็ยังไม่ถึง 50% ซึ่งครั้งสุดท้ายที่คะแนนนิยมของไบเดนดีที่สุด คือผลสำรวจเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่อยู่ที่ 50% ก่อนจะลดลงเหลือ 49% ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน และนับตั้งแต่นั้นมาคะแนนนิยมของเขาก็ไม่เคยสูงเกิน 43% 

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข


 

แค่ 2 ปัจจัยหลัก คือ อายุขัยกับคะแนนนิยม ก็ทำให้พวกเดโมแครตส่วนใหญ่เริ่มไม่แน่ใจในศักยภาพของไบเดน ว่าจะกอบกู้หรือนำพาพรรคผ่านสมรภูมิเลือกตั้งกลางเทอมได้หรือไม่ ยังไม่รวมปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในเวลานี้ที่เรียกว่า "Bidenflation" ทั้งเงินเฟ้อพุ่งกระทบค่าครองชีพ และน้ำมันแพง ซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ซบเซาจากการระบาดของโควิด ยังไม่รวบปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืน ที่ยังคงมีเหตุยิงกันรายวัน โดยยังไม่มีกฎหมายควบคุมที่บังเกิดผลในทางปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม


จากการสำรวจความเห็นของสมาชิกพรรคฯ เกือบ 50 คน ไล่ตั้งแต่ผู้นำเทศมณฑลจนถึงสมาชิกสภาคองเกรส ตลอดจนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ผิดหวังจากการสนับสนุนไบเดนเมื่อปี 2563 ได้เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก ที่พรรครีพับลีกันเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ บางคนมองไปถึงขั้นที่ว่าถ้า นายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาลงเลือกตั้งใหม่ไบเดนก็จะสู้ไม่ได้ และควรจะถอยจากการลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคไปสู้ศึกเลือกตั้งในปี 2567

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข


เรื่องนี้นำไปสู่การจัดประชุมลับถกกันหลายครั้ง เดวิด แอ็กเซลรอด หัวหน้าฝ่ายวางยุทธศาสตร์ที่ทำให้ บารัค โอบามา ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2 ครั้ง ให้ความเห็นว่าตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นงานที่ต้อง "ใช้ความพยายามอย่างมาก" และความจริงที่เลวร้ายคือประธานาธิบดีกำลังใกล้จะมีวัย 90 ไม่ใช่ 80 


อีกทั้งตัว นายโจ ไบเดน เองก็ไม่ได้รับเครดิตจากการขับเคลื่อนประเทศผ่านวิกฤตโรคระบาด, ผ่านกฎหมายประวัติศาสตร์ดึงชาติพันธมิตรร่วมต่อต้านการรุกรานยูเครนของรัสเซีย, ฟื้นฟูความประพฤตที่เหมาะสมและมารยาทในทำเนียบขาว เพราะจุดบอดเรื่องอายุ และความไม่กระฉับกระเฉงเมื่ออยู่หน้ากล้อง 


ตอนนี้ดูเหมือนค่ายของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส กำลังเตรียมตัวรับความเป็นไปได้ เพราะตารางแคมเปญของเธอตอนนี้แน่นขนัด การปรากฎตัวที่เซาธ์ แคโรไลนา ทำให้หลายคนย้อนรำลึกไปถึงตอนเธอไปหาเสียงเมื่อปี 2563 ตอนนั้นอดีตวุมิสมาชิกจากรัฐแคลิฟอร์เนียผู้นี้ ที่มีความทะเยอทะยานจะเป็นตัวแทนพรรคฯ ไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้โชว์การปราศรัยที่โดดเด่นโจมตีไบเดนอย่างดุเดือด ก่อนจะลงเอยด้วยการไปลงสู้ศึกคู่กับเขา 

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข


ถ้าไบเดนไปต่อไม่ไหว (ถูกพรรคโละเพราะความชราและคะแนนนิยมที่ตกต่ำ) ความทะเยอทะยานของ แฮร์ริส น่าจะถูกจุดประกายอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งที่เธอเปิดหน้าครั้งแรกต่อหน้าคน 20,000 คน ที่เมืองโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอจะต้องจะแก้จุดอ่อนในครั้งนั้นของตัวเองในหลายข้อ ได้แก่

 

- ไม่สามารถอธิบายถึงเหตุผลในการลงสมัครได้อย่างชัดเจน
- ตอบคำถามด้วยความสับสนเกี่ยวกับนโยบายที่มีความสำคัญ เช่น สาธารณสุข
- ไม่สามารถใช้ความโดดเด่นด้านการอภิปรายโต้แย้ง มาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
- ไม่ชัดเจนว่าจะยืนอยู่ฝ่ายหัวก้าวหน้าหรือสายกลาง

 
อย่างไรก็ตาม ถ้า แฮร์ริส ตั้งความหวังจะเป็นประธานาธิบดีหญิงสหรัฐอเมริกาคนแรก เธอต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เพราะแน่นอนว่าต้องมีคนจ้องจะสมัครเพื่อมาแทนที่ ไบเดน เช่นกัน

โจ ไบเดน เหมือนตกที่นั่งลำบาก สมาชิกพรรคอยากโละทิ้ง หลังเผชิญ 3 ปัญหายากแก้ไข