ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสนอพักเก็บภาษีน้ำมัน 3 เดือน แต่เจอเสียงวิจารณ์ทันที

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสนอพักเก็บภาษีน้ำมัน 3 เดือน แต่เจอเสียงวิจารณ์ทันที มีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่าครอบครัวชาวอเมริกันที่จ่ายค่าน้ำมันเบนซินในราคาแพงขึ้น ควรได้รับการแบ่งเบาภาระทางการเงิน และเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนระงับการจัดเก็บภาษีเชื้อเพลิงของรัฐบาลกลางนาน 3 เดือน จนถึงเดือน ก.ย. เพื่อลดราคาน้ำมันในช่วงฤดูร้อนที่มีการขับขี่เดินทางสูงมากทั่วประเทศ 

 

 

ในปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีน้ำมันเบนซิน 18.4 เซนต์ต่อ 1 แกลลอน และจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล 24.4 เซนต์ต่อ 1 แกลลอน  และหากผลประโยชน์ทั้งหมดจากการพักเก็บภาษีดังกล่าวกระจายสู่ชาวอเมริกันโดยตรง จะทำให้ผู้ขับขี่ประหยัดรายจ่ายค่าน้ำมันได้เกือบ 3.6% จากปัจจุบันราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เพิ่มขึ้นจากเกือบ 3 ดอลลาร์เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว 

ด้าน นักวิเคราะห์บอกว่ามาตรการระงับเก็บภาษีน้ำมันชั่วคราว เป็นเพียงกิมมิคหรือกลอุบายของประธานาธิบดี ที่ขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการแก้ไขปัญหา เรื่องความไม่สมดุลทางโครงสร้างระยะยาวระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในตลาดพลังงาน และมาตรการนี้มีผลเพียงเล็กน้อยต่อราคาน้ำมันที่แต่ละครัวเรือนต้องจ่าย 

รวมทั้งไม่อาจลดอัตราเงินเฟ้อโดยรวมได้ และสมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนแสดงความกังวลด้วยว่า บริษัทน้ำมันและผู้ค้าปลีกจะเป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จากมาตรการนี้ นอกจากนี้มีการประเมินว่าการระงับเก็บภาษีน้ำมัน จะทำให้รัฐบาลสูญรายได้เกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ในบางรัฐ เช่น นิวยอร์กและคอนเนคติกัต ได้ระงับการเก็บภาษีเชื้อเพลิงภายในรัฐของตัวเองแล้ว และบางรัฐเสนอแนวทางอื่นๆ เช่น การคืนเงินให้กับผู้บริโภคหรือการให้เงินเยียวยาโดยตรง ประธานาธิบดีไบเดนกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างมาก ในการแก้ไขปัญหาปากท้องของชาวอเมริกัน ในช่วงที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนจะมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางเทอมในเดือน พ.ย.นี้  

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คะแนนนิยมของ ประธานาธิบดีไบเดน ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือเพียง 36% แล้ว