WHO ยังไม่ประกาศฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ลามแล้ว เกือบ 50 ประเทศ

WHO ยังไม่ประกาศฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้ลามแล้ว เกือบ 50 ประเทศ แม้การระบาดของฝีดาษลิงกำลังระบาดหนักในยุโรป ทว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศผลการประชุมฉุกเฉินว่า สถานการณ์ระบาดของฝีดาษลิงยังไม่เข้าเกณฑ์เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่แนะทั่วโลกป้องกันการแพร่กระจายและเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด

คณะกรรมการฉุกเฉินของ WHO ประชุมเมื่อวันเสาร์เพื่อพิจารณาว่าระดับภารระบาดของโรคฝีดาษลิง ที่มีผู้ป่วยอย่างน้อย 3,200 คนในเกือบ 50 ประเทศนับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.เข้าเกณฑ์ที่จะต้องยกระดับมาตรการรับมือสู่ระดับสูงสุดแล้วหรือไม่ 

โดย ทีโดรส อัดฮานอยม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ออกแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการฉุกเฉินนำว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ที่เป็นระดับเตือนภัยสูงสุด แต่คณะกรรมการสะท้อนว่า การระบาดมีความน่ากังวลมากยิ่งขึ้น

เขาเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเพิ่มการเฝ้าระวัง ตรวจหาเชื้อ ติดตามผู้สัมผัส และเตรียมพร้อมให้ประชาชนในกลุ่มเสี่ยงสูงเข้าถึงวัคซีนหรือยาต้านไวรัส

ที่ผ่านมา WHO ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระว่างประเทศรวม 6 ครั้ง ได้แก่ การระบาดของโรคโปลิโอ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 โรคอีโบลา 2 ระลอก โรคซิกา และโรคโควิด

ทั้งนี้ ฝีดาษลิงเคยเป็นโรคประจำถิ่นในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง แต่ขณะนี้ผู้ติดเชื้อ 84% กระจายอยู่ทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป และ WHO เพิ่งยุติการแบ่งกลุ่มประเทศที่มีโรคฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นกับประเทศที่ไม่ได้มีฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นในการรายงานข้อมูลการระบาดทั่วโลก

ทีโดรส ระบุว่า สิ่งที่ทำให้การระบาดขณะนี้น่ากังวลเป็นเพราะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วต่อเนื่องในประเทศและภูมิภาคใหม่ ๆ และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่เชื้อจะแพร่ กระจายสู่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น คนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หญิงตั้งครรภ์ และเด็ก

พร้อมทั้งระบุว่า การวิจัยเกี่ยวกับการระบาดของฝีดาษลิงในแอฟริกาไม่ได้รับความสนใจ ทำให้ประชาชนในภูมิภาคดังกล่าวและทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง