WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด

WHO เป็นห่วงทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มถึง 30% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ย้ำความสำคัญของการใส่หน้ากากอนามัยโดยเฉพาะในที่แออัด

WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด จากที่ก่อนหน้านี้ ในประเทศไทยมีการเตือนอย่างหนักว่า โควิดกลับมาระบาดอีกระลอก ยอดติดเชื้อทะลุ 5 หมื่นรายต่อวัน ซึ่งทาง หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กับ "ไทยนิวส์ออนไลน์" ประเด็นสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาระบาดแล้วในไทย โควิดโอไมครอนBA.4 - BA.5 

 

WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด

หมอธีระวัฒน์ ระบุว่า โควิดโอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 - BA.5 มันพัฒนาขึ้นมาตามธรรมชาติของไวรัส คนที่ติดเชื้อแล้วติดได้อีกแน่นอน แต่หากได้รับวัคซีนเพียงพอ หรือเคยติดเชื้อมาแล้ว อาการก็จะหนักเบาแตกต่างกันออกไป

 


ปัญหาสำคัญคือวัคซีนในปัจจุบัน ที่ไม่เท่าทันต่อการพัฒนาของไวรัส มีความพยายามทดลองวัคซีนที่จะต่อสู้กับโอมิครอน แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ค่อยน่าพอใจ การไปฉีดบูสเตอร์ เข็ม4-5 ตามความสมัครใจ จึงอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาซะทีเดียว เพราะวัคซีนส่วนมากตอนนี้ จะตอบสนองกับเดลต้ามากกว่า

WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด

ล่าสุด ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงข่าวรายงานสถานการณ์การระบาดของโควิดในเวลานี้ว่ากำลังน่าเป็นห่วง เพราะพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มมากถึง 30% โดยมีโควิดสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 เป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดระลอกนี้ 

WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด

นอกจากนี้ ทาง WHO ยังบอกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่เป็นข่าว เพราะหลายประเทศก็แทบจะไม่มีการตรวจโควิดแบบจริงจังกันแล้ว

 

ทาง WHO จึงขอให้รัฐบาลแต่ละประเทศไม่ประมาท ควรฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง นอกจากนี้ขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่แออัด หรือเมื่ออยู่ในอาคารที่ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี

WHO เผยผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 30% ย้ำให้ใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในที่แออัด


ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline