รัฐบาลประกาศมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของประเทศให้ ชินโซ อาเบะ

รัฐบาลประกาศมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของประเทศให้ ชินโซ อาเบะ จากเหตุการณ์สุดสะเทือนใจไปทั้งโลก กับการเสียชีวิตของอดีตนายกญี่ปุ่น ซึ่งมีรายงานว่า ชาวญี่ปุ่นที่เศร้าโศกหลั่งไหลไปร่วมเคารพศพอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะที่วัดโซโจจิในกรุงโตเกียวเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยตำรวจพลาดขั้นตอนคุ้มกันวีไอพี โดยไม่ประกบอาเบะทันทีหลังกระสุนนัดแรกดังขึ้น

 

ร่างของ ชินโซ อาเบะได้รับการเคลื่อนย้ายจากบ้านพักในกรุงโตเกียว ไปยังวัดโซโจจิในวันที่ 11 ก.ค. เพื่อประกอบพิธีไว้อาลัยก่อนที่จะมีพิธีศพที่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัวในวันอังคาร ซึ่งจะมีเพียงครอบครัวและเพื่อนสนิทเข้าร่วมพิธี หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีวัย 67 ปีถูกยิงขณะปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งวุฒิสภาของพรรครัฐบาลที่เมืองนารา จนถึงแก่ชีวิตเมื่อวันศุกร์

 

ทั้งนี้ประชาชนชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนหลั่งไหลไปร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยและเคารพศพอาเบะเป็นครั้งสุดท้ายที่วัดโซโจจิด้วยความเศร้าโศกที่ต้องสูญเสียอดีตนายกรัฐมนตรีจากเหตุการณ์ลอบยิง อีกทั้งชาวจีนคนหนึ่งที่มาร่วมไว้อาลัย ยังกล่าวว่า 

"แม้คนจีนส่วนใหญ่ไม่ชอบนโยบายต่างประเทศของอาเบะต่อจีน แต่เขาคิดว่า อาเบะก็ทุ่มเทความพยายามอย่างมากเพื่อความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างจีนและญี่ปุ่น และเป็นคนดีมาก จึงเศร้าใจมากที่เขาจากไปเช่นนี้"

 

ขณะเดียวกันรัฐบาลประกาศจะมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาสแก่อดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ทำให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของประเทศในยุคหลังรัฐธรรมนูญฉบับใฝ่สันติ เช่นเดียวกับชิเกรุ โยชิดะ, เอซากุ ซาโต และยาสุฮิโร นากาโซเน

ส่วนประเด็นเรื่องความบกพร่องของการรักษาความปลอดภัยอดีตผู้นำ เจ้าหน้าที่เปิดเผยกับสื่อว่า ตำรวจไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการอารักขาบุคคลสำคัญในสถานการณ์เกิดการลอบยิง โดยเจ้าหน้าที่ควรผลักอาเบะลงกับพื้นทันทีหลังกระสุนนัดแรกดังขึ้น และเข้าล้อมตัวเขาเพื่อนำขึ้นรถหรือไปยังที่กำบังเพื่อความปลอดภัย

ตามรายงานระบุว่า เท็ตสึยะ ยามากามิ มือปืนสามารถยิงอาเบะจากด้านหลังในพื้นที่โล่งในบริเวณสี่แยกใกล้กับสถานีรถไฟ และลั่นไก 2 นัดใส่เขาจากระยะห่างเพียงไม่กี่เมตร โดยนัดที่สองดังขึ้นห่างจากนัดแรกเพียงเกือบ 3 วินาที แต่เจ้าหน้าที่ก็จับกุมตัวเขาได้อย่างรวดเร็วในจุดเกิดเหตุ

นอกจากนี้สื่อญี่ปุ่น รายงานเกี่ยวกับประวัติของยามากามิว่า เขาเคยพยายามคิดสั้นหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ และมีชีวิตอยู่ด้วยความโกรธแค้นหลังจากพ่อเสียชีวิต แม่ของเขาที่ขาดที่พึ่งได้หันเข้าหาลัทธิและบริจาคเงินจนหมดตัว มีหนี้สินและถูกฟ้องล้มละลาย พี่ชายที่เป็นเสาหลักแทนเกิดป่วยและไม่มีเงินรักษาจึงตัดสินใจคิดสั้น 

นั่นเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จิตใจของยามากามิถูกกัดกร่อน และมองหาคนที่จะมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา และเคราะห์ร้ายไปตกที่นายอาเบะ เดิมเขาตั้งใจจะใช้ระเบิดที่ประดิษฐ์เองโจมตีตอนอาเบะไปหาเสียงที่เมืองโอกายามา แต่พบว่าต้องมีการลงทะเบียนเข้าพื้นที่ปราศรัย จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เมืองนารา

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ เนชั่นทันโลก NTV World News
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline