นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ

นักท่องเที่ยวซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ รมว.ออสเตรเลียลั่น มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านชีวภาพโดยไม่ขออนุญาต

นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ จะเดินทางไปไหนในตอนนี้คงต้องเช็คกฎหมายในประเทศนั้นๆ ดีๆ เสียแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะโดนปรับมากมายมหาศาลเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวรายนี้ ที่เขาพกแมคมัฟฟินไปต่างประเทศ แต่นั่นคือหายนะครั้งใหญ่ในชีวิต 

นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

ตามรายงานระบุว่า นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เดินทางมาจากเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เข้าไปยังประเทศออสเตรเลีย แต่กลับเจอเจ้าหน้าที่ปรับเงินอย่างมหาศาล หลังจากเจ้าหน้าที่พบว่า เขาพกอาหารเช้าของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเข้าประเทศมาด้วย


โดยอาหารที่ถูกตรวจค้นพบนั่นก็คือ แมคมัฟฟิน ที่เป็นลักษณะคล้ายเบอร์เกอร์ ที่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวซื้อมาก่อนขึ้นเครื่องบินมายังเมืองดาร์วิน ทางเหนือของออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ (31 ก.ค. 65) ที่ผ่านมา และเมื่อมาถึงสนามบินก็ถูกสุนัขตำรวจดมกลิ่นเจอ

นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

 

ทั้งนี้ นอกจากแมคมัฟฟินแล้ว ยังพบว่าเขาได้พกครัวซองต์แฮมอยู่ในกระเป๋าเป้อีกด้วย และด้วยเหตุนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียปรับเงินนักท่องเที่ยวคนนี้ถึง 2,664 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ราวๆ 67,772 บาท เพราะมองว่านำวัตถุที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านชีวภาพโดยไม่ขออนุญาต และยังกรอกข้อมูลเท็จลงในเอกสาร

นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล


ขณะเดียวกัน เมอร์เรย์ วัทท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ ของออสเตรเลีย ยังกล่าวโทษนักท่องเที่ยวรายนี้ว่า การนำอาหารดังกล่าวเข้ามาอาจปนเปื้อนโรคมือเท้าปากที่แพร่ระบาดได้ง่ายอีกด้วย


"นี่เป็นอาหารจากแมคโดนัลด์ที่แพงที่สุดที่ผู้โดยสารคนนี้ต้องจ่าย และค่าปรับนี้มีราคาเท่ากับค่าตั๋วไปบาหลี 2 เท่า แต่ผมไม่เห็นใจคนที่เลือกเองว่าจะไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความมั่นคงทางชีวภาพของออสเตรเลียที่เข้มงวดมาก" รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ ของออสเตรเลีย อธิบาย

นักท่องเที่ยวหน้าซีด โดนปรับเกือบแสน หลังพก แมคมัฟฟิน ไปต่างประเทศ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline