- 05 พ.ย. 2567
"ประธานาธิบดีสหรัฐ" ผลการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 รู้วันไหน เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปิดคูหาวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567
"ประธานาธิบดีสหรัฐ" ใกล้จะได้เห็นโฉมหน้า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ แล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้น่าจะเป็น กมลา เดวี แฮร์ริส (Kamala Devi Harris) หรือ กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ที่ตอนนี้ถูกจับตาอย่างมากในการเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ซึ่งวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 หลังปิดหีบเลือกตั้งลงคะแนนต้องรอลุ้นว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47
- ประธานาธิบดีสหรัฐใครลงสมัครบ้าง
2 คนที่ขับเคี้ยวกันมาร่วมเดือนอย่าง นายโดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump) หรือ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) นักการเมืองวัย 78 ปีจากพรรครีพับลิกัน กับ นางกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) นักการเมืองชาวอเมริกันวัย 60 ปี จากพรรคเดโมแครต ที่ตอนนี้ต่างคนต่างมาแรงทั้งคู่ในช่วงการหาเสียงร่วมเดือนที่ผ่านมา
- คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024
1. เป็นพลเมืองอเมริกัน
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องลงทะเบียนก่อน
3. สามารถลงได้ผ่านทางออนไลน์ โดยแต่ละรัฐจะมีขั้นตอนและวันปิดรับการลงทะเบียนที่แตกต่างกันออกไป
- ผลการเลือกตั้งอเมริกา 2024 ผลคะแนนสำคัญขึ้นอยู่กับ 7 รัฐดังนี้
1. แอริโซนา
2. จอร์เจีย
3. มิชิแกน
4. เนวาดา
5. นอร์ทแคโรไลนา
6. เพนซิลเวเนีย
7. วิสคอนซิน
- ผลการเลือกประธานาธิบดีสหรัฐ 2024
ผลการเลือกตั้งอเมริกา 2024 รู้ผลวันไหน หลังปิดคูหาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ถัดจากนั้นก็จะนับคะแนน แล้วจะแจ้งผลการเลือกตั้งอเมริกา 2024 ในวันที่ 6 มกราคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น (ในเขตวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกาช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง ส่วนลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง)
- การสาบานตนเข้ารับตำเเหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 วันที่เท่าไหร่
- พิธีสาบานตนจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี ในวันที่ 20 มกราคม 2568 (แต่หากตรงกับวันอาทิตย์ก็จะเลื่อนเป็น 21 มกราคมเเทน) ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
- ว่าที่รองประธานาธิบดีจะสาบานตนก่อน ต่อมาในช่วงเที่ยงว่าที่ประธานาธิบดีจะกล่าวคำสาบานตนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
- ใครได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ 2024
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางของเศรษฐกิจและการเมืองโลก โดยผลการเลือกตั้งจะกำหนดทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบายการค้าต่างประเทศ การพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน การลงทุนในพลังงานสะอาด และการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น