- 20 พ.ค. 2567
จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เมื่ออิหร่านสูญเสียผู้นำอย่างกะทันหันจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ในขณะที่ประเทศของตนเอง เกิดสงครามรอบด้าน
คาดเดา! อนาคตอิหร่านหลังสูญเสียผู้นำในขณะที่เกิดสงครามรอบด้าน
อิหร่านถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นรอบด้าน ภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี ที่สร้างจุดยืนและการตอบสนองทั้งต่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และรัสเซียกับยูเครน ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับอิหร่าน ที่ต้องสูญเสียผู้นำประเทศ จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อวันอาทิตย์ (19 พฤษภาคม)
ก่อนหน้านี้ไรซีขู่จะโจมตีหลายเมืองใหญ่ของอิสราเอล รวมทั้งเทล อาวีฟ และไฮฟา จนเกิดทฤษฎีสมคบคิดว่าอิสราเอลอาจเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าอาเซอร์ไบจานเป็นหนึ่งในพันธมิตรมุสลิม ไม่กี่ประเทศของอิสราเอล ทั้งยังเกิดขึ้นในเวลาหนึ่งเดือนหลังอิหร่านส่งโดรนและยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล
นอกจากศัตรูภายนอกแล้วไรซียังมีศัตรูภายใน โดยเฉพาะการใช้ความรุนแรงโดยอ้างกฎหมายศีลธรรม นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2564 รวมทั้งการปราบปรามผู้ลุกฮือใน 70 เมือง หลังการเสียชีวิตของ "มาห์ซา อามินี่" เด็กสาววัย 22 ปี ที่สวมฮีญาบอย่างไม่เหมาะสม จนถูกขนานนามว่าเป็น "ลูกรัก" ของอยาตอลลาห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดวัย 85 ปี และเป็นคู่แข่งของ "ม็อจทาบา" บุตรชายของคาเมเนี ในการสืบทอดตำแหน่งผู้นำสูงสุด และเรื่องนี้ก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างหนาหูมาระยะหนึ่งในอิหร่านเช่นกัน
ซึ่งการถึงแก่อสัญกรรมของไรซี ได้สั่นคลอนการเมืองอิหร่านอย่างรุนแรง เพราะรัฐบาลจำเป็นจะต้องมีประธานาธิบดีคนใหม่ ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังมีส่วนร่วมในสงครามระดับภูมิภาค ขณะที่ศัตรูสำคัญ รวมถึงสหรัฐฯ อิสราเอล และซาอุดีอาระเบียกำลังพิจารณาที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ที่สำคัญ คือปัญหาเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
จึงทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ไม่ใช่ช่าวอิหร่านทุกคนที่จะไว้อาลัยให้กับการจากไปของเขา เพราะหลายคนอาจจดจำประธานาธิบดีผู้นี้ ในฐานะผู้พิพากษาที่สั่งจำคุกศัตรูทางการเมืองหลายพันคน และผู้นำที่จัดการปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร้เหตุผล ด้วยการทุ่มงบประมาณส่วนใหญ่ไปกับการทหารและศาสนา
ตามรัฐธรรมนูญของอิหร่าน มาตรา 131 กำหนดให้รองประธานาธิบดีมูฮัมหมัด ม็อคเบอร์ ที่เคยมีบทบาทสำคัญในการทำทุกวิถีทางให้ไรซีชนะการเลือกตั้ง ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีชั่วคราว และทำงานร่วมกับหัวหน้าฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งประธานาธิบดี "ภายในระยะเวลาสูงสุด 50 วัน"