เศรษฐีวัย 65 พบรัก รักสาว 19 จัดงานแต่งใหญ่โต สินสอดเป็นล้าน ผ่านไป 2 เดือน หย่า

เศรษฐีวัย 65 พบรัก รักสาว 19 จัดงานแต่งใหญ่โต สินสอดเป็นล้าน ผ่านไป 2 เดือน หย่า ทำเอาชาวบ้านต่างเม้าท์มอยอย่างสนั่น เมื่อสื่อในประเทศอินโดนีเซีย ได้เผยเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่กลายเป็นประเด็นถูกพูดถึงบนสังคมออนไลน์ เมื่อเศรษฐีชายวัย 65 ปี แต่งงานกับหญิงสาวรุ่นลูก ซึ่งเธออายุเพียง 19 ปี โดยยืนยันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข แม้จะห่างกันถึง 46 ปี แต่ไม่ใช่ใช่อุปสรรคขวางกั้น และรักครั้งนี้ก็มั่นใจว่าเป็นรักแท้ แน่นอนว่า ความรักครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของเงินทอง

 

 

โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สุตานี เศรษฐีวัย 65 ปี ได้จัดพิธีแต่งงานกับ บาลันติ เจ้าสาววัย 19 ปีของเขา ภายหลังจากทั้งสองได้พบเจอกันเพียง 1 เดือน ซึ่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เจ้าบ่าวมอบสินสอดของขวัญให้แก่เจ้าสาวแบบจัดเต็ม ได้แก่เงินสด 700 ล้านรูเปียห์ หรือ ราวๆ 1.69 ล้านบาท พร้อมทั้งอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ทองคำ เครื่องประดับ และอย่างอื่นอีกมากมาย

การแต่งงานครั้งนี้ได้กลายเป็นที่สนใจของผู้คน เนื่องจาก สุตานีถูกถามว่าการแต่งงานครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินหรือไม่ เขาเน้นย้ำหนักแน่นมั่นใจว่า สินสอดทองหมั้นทั้งหมดในงานแต่งงานนั้น มาจากเขาโดยสมัครใจ การแต่งงานของทั้งสองเกิดจาก "อารมณ์ความรัก" ไม่ได้มาจาก "เงิน" เพียงอย่างเดียว

 

"ผมไม่ได้สนใจว่าชาวเน็ตพูดถึงพวกเราอย่างไร และเราก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญ ผมไม่ใช้โซเชียลมีเดีย แม้จะรู้ว่ามีคนพูดถึงการแต่งงานของเราบนอินเทอร์เน็ต แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ" เศรษฐีวัย 65 ปีระบุ

นอกจากนี้ ภายหลังจากงานแต่งงาน สุตานีและบาลันติ ได้เดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งดูเหมือนชีวิตหลังแต่งงานของทั้งสองคนจะผ่านไปอย่างราบรื่นและชื่นมื่นมีความสุข ทว่าหลังจากงานแต่งงานผ่านไปได้เพียง 2 เดือน ชาวบ้านในพื้นที่เผยกับสื่อท้องถิ่นว่า คู่สามีภรรยาดังกล่าวได้หย่าและแยกทางกันไปเรียบร้อยแล้ว 

ชาวบ้านเม้าท์ถึงเหตุผลที่ทราบเพียงว่า "การแต่งงานของทั้งสองนั้นรีบร้อนเกินไป และตอนนี้ทางฝ่ายชายก็กำลังป่วยอยู่" อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเงินสินสอด ว่าได้มีการจัดการอย่างไรหลังจากนั้นหรือไม่ ทางสื่อท้องถิ่นได้ติดต่อสอบถามไปยังครอบครัวของทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ได้รับคำตอบ

 

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fia Barlanti 
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline