นักศึกษาจบใหม่จีน หางานยากกว่าเดิม เซ่นพิษเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลงกว่าเดิม

นับว่าโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานกันถ้วนหน้า อย่างรายงานล่าสุดระบุว่า ผลพวงจากเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้าลงกว่าเดิมทำให้คนรุ่นใหม่ อย่างนักศึกษาจบใหม่ต้องเจอกับอนาคตที่ไม่แน่นอน เพราะต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อหางานทำ โดยข้อมูลของทางการระบุว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คนหนุ่มสาวที่อยู่ในเมืองมากถึง 1 ใน 5 ไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ เมื่อปี 2018 มากถึง 3 เท่า

 

โดย การแข่งขันเพื่อหางานทำของคนหนุ่มสาวในจีนจะยังคงรุนแรงขึ้นไปอีก เนื่องจากปีนี้ มีนักศึกษาจบใหม่เข้าสู่ตลาดหางานเพิ่มอีก 11 ล้านคน ขณะที่เศรษฐกิจจีนโตขึ้นแค่ 0.4% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี

ทั้งนี้ อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้นักศึกษาจบใหม่หางานทำยาก ก็คือการที่คนทำงานที่มีประสบการณ์แล้ว ยอมลดเงินเดือนตัวเองลงมาเท่ากับนักศึกษาจบใหม่ จึงทำให้บริษัทต่างๆ หันไปเลือกคนที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วมากกว่าที่จะเลือกนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน ขณะที่อัตราเงินเดือนของนักศึกษาจบใหม่ก็ลดลงมาจากปีที่แล้วอีก 12%

ตามรายงานระบุว่า นักศึกษาจบใหม่บางส่วนที่ยังหางานทำไม่ได้ ตัดสินใจไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท เพื่อเพิ่มโอกาสในการหางานทำ และได้เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเป็นห่วงว่านี่อาจจะทำให้เกิด ภาวะ Degree Inflation หรือภาวะวุฒิการศึกษาเฟ้อ ซึ่งหมายถึงการที่คนหางานมีวุฒิการศึกษาสูงเกินความจำเป็นกว่าที่ตลาดต้องการ สุดท้ายแล้ว คนหางานอาจจะได้งานและเงินเดือนที่ต่ำกว่าคุณสมบัติของตัวเอง

 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขคนหนุ่มสาวที่ว่างงานที่แท้จริงอาจจะสูงมากกว่านี้ถึง 1 เท่า เนื่องจากการเก็บข้อมูลของรัฐบาลจีนไม่ได้ครอบคลุมเขตเมืองห่างไกลอย่างทั่วถึง และหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อาจจะนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่มากกว่านี้ในอนาคต เช่นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว หรือการก่ออาชญากรรมที่สูงขึ้น

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline