หมอพยายามหนัก ดึงงูออกจากหูหญิงสาว ชาวเน็ตคอมเมนต์ถกกันสนั่น

หมอพยายามหนัก ดึงงูออกจากหูหญิงสาว ชาวเน็ตคอมเมนต์ถกกันสนั่น ทำเอาโลกออนไลน์ต่างให้ความสนใจอย่างมาก พร้อมทั้งวิเคราะห์ว่าจริงหรือปลอม เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานเคสสุดแปลกที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวอินเดียรายหนึ่ง ที่มีหัวงูโผล่ออกมาจากหูของเธอกระทั่งคุณหมอต้องช่วยกันดึงมันออกมา 

 

งูเข้าหูโดย เฟซบุ๊ก Chandan Singh ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นเหตุการณ์ชวนขนลุกที่มีหัวงูโผล่ออกมาจากหูของหญิงสาวรายหนึ่ง โดยบุคลากรทางการแพทย์พยายามจะดึงมันออกมา ซึ่งมีแคปชั่นที่เขียนเป็นภาษาอินเดียแปลได้ว่า "งูเข้าหู"
 

แต่ถึงจะพยายามดึงออกยังไง เจ้างูตัวดังกล่าวก็ไม่หลุดออกมาสักที แถมมันยังอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น และคนดึงเองก็ไม่สามารถจะจับแหนบให้แน่นพอที่จะดึงตัวของงูออกมาได้

 

ตามรายงานระบุแค่ว่า ต้นทางของคลิปมาจากประเทศอินเดีย แต่ไม่มีการให้ข้อมูลอื่นใดนอกเหนือจากนี้ และคลิปเต็มๆ ก็ไม่เห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดึงน้อยออกมาจากรูหูได้สำเร็จหรือไม่ ทำให้ชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปต่างตะลึงช็อกกับเหตุการณ์นี้อยู่ไม่น้อย

ด้านความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมองว่างูต้องประสบภัยน้ำท่วม และปัญหาอื่นๆ ทำให้พวกมันต้องอพยพเข้าไปอยู่ในบ้านของประชาชน และคาดว่าหญิงคนนี้อาจจะถูกงูตัวดังกล่าวเลื้อยเข้าไปอยู่ในหูตอนที่เธอนอนหลับอยู่ก็เป็นได้
 

แต่ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นคลิปดังกล่าวต่างก็เข้ามาถกเถียงกันสนั่นว่าคลิปนี้เป็นคลิปจริงหรือคลิปปลอม บางคอมเมนต์มองว่าทำไมคนคีบใช้เวลานานกว่าจะคีบงูตัวเล็ก ๆ ออกมาได้ และหลายอย่างดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย อีกทั้งหญิงสาวในคลิปก็ดูใจเย็น ไม่แสดงความรู้สึกเจ็บปวด หรืออะไรบ้างเลย อยากรู้ว่างูมันเข้าไปได้ยังไงทำไมหันหัวออกแบบนั้น หรือว่ามันจะเลื้อยแบบถอยหลัง ?

ขณะที่ หลายๆ คนก็มองว่าคลิปดังกล่าวเป็นคลิปย้อนกลับที่คนดึงอาจจะพยายามยัดงูเข้าไปในหูก็เป็นได้ บางคอมเมนต์ก็ระบุว่าการใช้แหนบอาจจะมีแรงไม่เพียงพอต่อการดึงงูออกมา อาจจะต้องใช้ Hemostat ที่เป็นเครื่องมือทางการแพทย์คีบและดึงมันออกมา
 

อย่างไรก็ตาม งูจากในคลิปที่เห็นนั้นเป็น งูไซ หรือ Bocourt'Water Snnake (ชื่อวิทยาศาสตร์ Subsessor bocourti) ซึ่งเป็นงูน้ำที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพิษอ่อนอ่อนไม่อันตราย เป็นงูที่ปกติ มีนิสัยไม่ค่อยก้าวร้าว แต่เมื่อถูกคุกคามก็มีฉกกัดบ้างเช่นกัย แต่ส่วนมากจะหนีเสียมากกว่า ซึ่งมันมีพิษอ่อนๆไม่อันตรายหรือไม่มีผลกับคน

ภาพจาก Chandan Singh
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline