สั่งอพยพประชากรกว่า 9 ล้านชีวิต หนีภัยพายุไต้ฝุ่นนันมาดอล

สั่งอพยพประชากรกว่า 9 ล้านชีวิต หนีภัยพายุไต้ฝุ่นนันมาดอล นายกฯญี่ปุ่นประกาศลั่น 'อพยพในทันที อย่าลังเล' ยังจับตาอย่างต่อเนื่องแม้ว่า พายุไต้ฝุ่นนันมาดอล พายุหมายเลข 14 จะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทยตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ทว่าประเทศที่โดนอิทธิพลของพายุพัดโจมตใส่เต็มๆ นั่นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีคำสั่งให้ประชาชนกว่า  4 ล้านคนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อเตรียมรับมือ พายุนันมาดอล แล้ว 

 

 

 

เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานเพิ่มเติมจาก สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดการณ์ระบุว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นนันมาดอล จะเคลื่อนตัวมุ่งสู่กรุงโตเกียวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และคาดว่าอิทธิพลของพายุนันมาดอลจะทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และเกิดดินถล่มลงมาจากภูเขาด้วย 

- เช็คเส้นทางล่าสุด พายุนันมาดอล ถล่มญี่ปุ่นแล้ว 3 แสนครัวเรือนโดนเต็มๆ

พายุเข้าญี่ปุ่น ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งอพยพประชาชนเกือบ 10 ล้านคน เพื่อหนีอิทธิพลซูเปอร์ไต้ฝุ่นนันมาดอล ที่ถือเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดที่กำลังโจมตีถล่มญี่ปุ่น ซึ่งซูเปอร์ไต้ฝุ่นนันมาดอลพัดถล่มญี่ปุ่นในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ก.ย.) ใกล้กับเมืองคาโกชิมะ ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู ตอนนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน บาดเจ็บอีกกว่า 90 คน

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยพิเศษ ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และถือเป็นระดับการเตือนภัยระดับรองสูงสุดในจังหวัดคาโกชิมะ คุมาโมโตะ และมิยาซากิ บนเกาะคิวชู ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น และมีประชากรราว 13 ล้านคน และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการประกาศเตือนภัยพิเศษ ในพื้นที่นอกจังหวัดโอกินาวะ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ประกอบด้วยเกาะเล็กใหญ่ในทะเลจีนตะวันออก

 

ตามรายงานระบุว่า ตอนนี้ ประชาชนหลายแสนคนต้องค้างคืนในศูนย์ที่พักชั่วคราว และมีเกือบ 350,000 ครัวเรือนที่ต้องไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้ประกาศเตือนประชาชนเมื่อวันจันทร์ (19 ก.ย.) ที่ผ่านมา ให้ "อพยพในทันที อย่าลังเล หากรู้สึกถึงอันตราย"

ถ้อยคำประกาศเตือนของ นายกญี่ปุ่นระบุว่า "ผมเตือนทุกคนให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงอย่างริมแม่น้ำ และทางน้ำ หรือจุดเสี่ยงเกิดดินถล่ม" และ "การเดินทางในยามวิกาลสุ่มเสี่ยงมาก ขอให้ประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยก่อนค่ำ"

สำหรับ พายุนันมาดอล ถือเป็นพายุไต้ฝุ่นที่ก่อตัวขึ้นลูกที่ 14 ในมหาสมุทรแปซิฟิกในปีนี้ และถือเป็นลูกใหญ่สุดที่พัดถล่มญี่ปุ่นในปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ทางการญี่ปุ่นต้องระงับให้บริการรถไฟ เรือเฟอร์รี และยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว ท่ามกลางเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งอิทธิพลของพายุก่อให้เกิดฝนตกหนัก จนทำให้แม่น้ำหลายสายบนเกาะคิวชูเอ่อล้นท่วมบ้านเรือน ลมกระโชกแรงทำให้หลังคาอาคารหลายแห่งปลิว ป้ายโฆษณาโค่นล้มลงมา

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ประเมินคาดการณ์ว่า ฤดูพายุในปี2022 จะรุนแรง เป็นผลจากปรากฏการณ์ลานีญา ขณะที่อุณหภูมิน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกและแคริบเบียน จากผลกระทบของปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนให้พายุที่เกิดขึ้นรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline