- 26 ก.ย. 2565
เตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่นโนรู ประเทศเพื่อนบ้านสั่งอพยพแล้วเกือบหมื่นคน - ประกาศปิดสำนักงานของภาครัฐทั้งหมด
เตรียมรับมือ พายุไต้ฝุ่นโนรู ประเทศเพื่อนบ้านสั่งอพยพแล้วเกือบหมื่นคน ตื่นเช้ามากับอากาศครึ้มๆ ฝนตกปรอยๆ ถึงตกหนักในหลายพื้นที่ในเช้าวันนี้ (26 กันยายน2565) เนื่องจากตอนนี้ประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับ พายุโซนร้อน โนรู (NORU) ที่ก่อนหน้านี้ ตามพยากรณ์อากาศระบุว่า พายุโนรู ได้เป็นกำลังเป็น พายุไต้ฝุ่นโนรู ด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วงวันที่ 25- 26 กันยายน และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 27-28 กันยายนนี้
ล่าสุดมีรายงานว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู มีกำลังลมแรงถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พัดเข้าถล่มเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ และมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 50 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศกว่า 110 ล้านคน ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้ทวีความรุนแรงอย่างยิ่งยวด ก่อนจะพัดถล่มเกาะลูซอน โดยอิทธิพลของพายุ ส่งผลให้เกิดดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน และแนวคลื่นขนาดใหญ่ หรือสตอร์มเซิร์จ
จนถึงตอนนี้ ประชาชนกว่า 8,400 คน ได้อพยพออกจากเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุแล้ว ขณะที่ทางการประกาศเตือนภัยน้ำท่วมรุนแรง ในหลายพื้นที่ของกรุงมะนิลา โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร้องขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำเตือนอพยพ เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งตอนนี้ พายุมีกำลังรุนแรงขึ้น 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
โดยสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างอิงกรมอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ที่มองว่า การทวีกำลังของพายุเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งพยากรณ์อากาศประกาศเตือนภัยกระแสลมแรงระดับ 5 ทั่วเกาะลูซอน ซึ่งเป็นระดับเตือนภัยสูงที่สุด และหมายความว่า พายุโนรู ถูกจัดอยู่ในระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น
นอกจากนี้ยังเตือนว่า พายุอาจทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จสูงกว่า 3 เมตร ตลอดชายฝั่งของจังหวัดเกซอน และจังหวัดออโรรา รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในบริเวณกว้างเนื่องจากพายุจะทำให้เกิดฝนตกหนัก ขณะที่คลิปวิดีโอที่แพร่สะพัดเผยให้เห็นลมพัดแรง ฝนตกหนัก และคลื่นแรงบนเกาะโพลิลโล
ทำเนียบมาลากันยัง เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ สั่งให้หน่วยราชการและสถานศึกษาปิดทำการในวันจันทร์ สืบเนื่องจากพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู ขณะที่ พลเอก โรโดลโฟ อาซูริน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ประชาชนที่อาศัยในเขตอันตรายปฏิบัติตามข้อเรียกร้องให้อพยพออกจากบ้านเรือนเมื่อจำเป็น
และสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติจังหวัดเกซอน เปิดเผยว่า ก่อนพายุขึ้นฝั่ง ชาวบ้านในบางเขตของเกซอนได้รับการอพยพออกจากบ้านเรือน และชาวบ้านในบางเขตของจังหวัดออโรรา ที่อยุ่ใกล้เคียงต้องอพยพด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้จุดที่พายุพัดขึ้นฝั่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 100 กม./ชม. หน่วยฉุกเฉินได้เตรียมพร้อมรับมือกับลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก ที่อาจส่งผลต่อเมืองหลวงที่มีประชากรอาศัยมากกว่า 13 ล้านคน และมีการบังคับอพยพประชาชนในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในมะนิลาแล้ว
หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า มีผู้โดยสารกว่า 2,500 คนติดค้างอยู่ตามท่าเรือหลายแห่งเนื่องจากเรือข้ามฟากต้องงดออกจากฝั่งช่วงก่อนพายุเข้า เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวที่เข้าออกกรุงมะนิลาถูกยกเลิก พยากรณ์อากาศ คาดว่า พายุโนรู จะอ่อนกำลังเป็นระดับไต้ฝุ่นเมื่อเคลื่อนตัวไปทั่วตอนกลางของเกาะลูซอน ก่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันจันทร์ และมุ่งหน้าต่อไปยังเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พายุ โนรู เป็นพายุลูกที่ 11 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในปีนี้ และก่อนหน้านี้ ซูเปอร์ไต้ฝุ่นราอี พัดถล่มฟิลิปปินส์เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ทำให้ประชาชนเสียชีวิตกว่า 400 ราย และอีกหลายแสนคนไร้ที่อยู่อาศัย
ภาพจาก เนชั่นทันโลก NTV World News
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline