บราซิลเสี่ยงวิกฤต ประธานาธิบดีขู่ไม่ยอมแพ้ ผลเลือกตั้งผู้นำผิดคาด

บราซิลเสี่ยงวิกฤต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันขู่ไม่ยอมแพ้ ผลเลือกตั้งผู้นำผิดคาด จากที่ก่อนหน้านี้ชาวบราซิลได้ไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลและการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้สมัครที่แตกต่างกันสุดขั้ว ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน อย่าง ฌาอีร์ โบลโซนารู ลั่นไม่ยอมรับผลคะแนน หากพ่ายแพ้ให้อดีตผู้นำอย่าง ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา 

ตามรายงานระบุว่า ชาวบราซิลกว่า 156 ล้านคนมีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 513 คน สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 1 ใน 3 จากทั้งหมด 81 ที่นั่ง ผู้ว่าการรัฐ และสมาชิกสภาระดับรัฐ และคาดว่า ผลการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกอาจประกาศได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังหน่วยเลือกตั้งปิดลงคะแนนในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 3.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาไทย 

ล่าสุดมีรายงานว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลรอบแรกเมื่อวันที่ 2 ต.ค. ยังไม่มีผู้ชนะเด็ดขาด ทำให้ต้องจัดรอบสองปลายเดือนนี้ หลังจากประธานาธิบดีทำคะแนนได้ดีเกินคาด ตามหลังอดีตประธานาธิบดีที่เป็นตัวเต็งเพียงเล็กน้อย โดยผลการนับคะแนนบัตรเลือกตั้ง  99.7% บ่งชี้ว่า ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีมีคะแนนนำอยู่เพียงเล็กน้อยที่ 48.4% 

ขณะที่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูมีคะแนน 43.3%  แต่เนื่องจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงเกิน 50% ทำให้ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกต้องเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 30 ต.ค. ซึ่งผลการเลือกตั้งออกมาสูสีกว่าที่คิด หลังจากผลสำรวจความเห็นหลายครั้งที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า นายลูลามีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายโบลโซนารูราว 10-15% แต่ผู้สมัครทั้งสองคนก็สามารถอ้างชัยชนะกับผลคะแนนที่ออกมา

ด้าน ลูลา วัย 76 ปี อดีตประธานาธิบดีบราซิลสองสมัยระหว่างปี 2546-2554 สามารถกลับคืนสู่สนามการเมืองอย่างสวยงาม หลังจากต้องโทษจำคุกในคดีคอร์รัปชันและการฟอกเงินตั้งแต่ปี 2561 แต่ได้รับการตัดสินให้พ้นผิดในปี 2564  ขณะที่ นายโบลโซนารู สามารถพิสูจน์สิ่งที่เขาบอกว่า ผลโพลล์ผิดพลาดที่บอกว่า เขาจะแพ้การเลือกตั้ง

โดย ลูลา บอกกับผู้สนับสนุนในเมืองเซาเปาโลเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่า เขามั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งรอบสอง และบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาเขาก็ชนะการเลือกตั้งในรอบสองทั้งสองครั้ง

ขณะที่โบลโซนารู กล่าวกับผู้สนับสนุนในกรุงบราซิเลียว่า เขาเข้าใจดีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการออกเสียงเพื่อการเปลี่ยนแปลง แต่เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็อาจเลวร้ายกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้โบลโซนารู ขู่ว่า จะไม่ยอมรับผลคะแนนเลือกตั้ง หากเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หลังจากกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า ระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์อาจเปิดช่องให้มีการโกงเลือกตั้งได้ และนักวิจารณ์กังวลว่า หากมีการเลือกตั้งรอบสอง จะทำให้โบลโซนารูมีเวลาอีกหนึ่งเดือนในการหาเสียงโจมตีกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางสังคมเหมือนในสหรัฐฯ ที่ผู้สนับสนุนของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 เพื่อขัดขวางการรับรองผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline