เกิดไฟไหม้ - จลาจลในเรือนจำ สภาพความเสียหายนึกเค้าโครงเดิมยาก

สืบเนื่องจากกรณีเกิดไฟไหม้รุนแรงระหว่างการปะทะกันของผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่งในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านเมื่อคืนวันเสาร์ มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่น ด้าน เจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า อาคารหลังหนึ่งถูกจุดไฟเผา หลังเกิดการต่อสู้กันระหว่างนักโทษที่ต้องโทษคดีอาชญากรรมทางการเงินและลักขโมย ภายในเรือนจำเอวิน ในกรุงเตหะราน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน 

 

ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน ได้รายงานในวันอาทิตย์ (16 ต.ค.) โดยเผยแพร่ภาพแสดงให้เห็นว่า เรือนจำเอวินในกรุงเตหะรานกลับเข้าสู่ความสงบแล้ว หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อค่ำวันเสาร์ และแสดงให้เห็นความเสียหายขณะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปตรวจ สอบโรงฝึกงาน ที่อยู่ในสภาพไฟไหม้หลังคา รวมทั้งเผยภาพนักโทษนอนหลับภายในโรงนอนหลังสถานการณ์สงบลง 

นอกจากนี้ทางการอิหร่าน ยืนยันว่า มีนักโทษเสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บอีก 61 คน แต่ก่อนที่ทางการจะเผยแพร่ตัวเลขล่าสุด ครอบครัวของนักโทษการเมืองบางคนที่ถูกจองจำในเรือนจำแห่งนี้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้ทางการรับรองความปลอดภัยนักโทษที่เรือนจำแห่งนี้ด้วย

ไฟไหม้และจลาจลในเรือนจำ สภาพความเสียหายนึกเค้าโครงเดิมยาก รายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว

ตามรายงานระบุว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ประท้วงทั่วประเทศที่ยืดเยื้อนาน 5 สัปดาห์ และมีชนวนเหตุจากการเสียชีวิตของมาห์ซา อามินี สาววัย 22 ปีระหวางการถูกคุมขัง หลังถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมในเดือน ก.ย.  ผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่ถูกจับกุม ถูกส่งมาคุมขังที่เรือนจำแห่งนี้ด้วย ขณะที่ในเรือนจำยังมีนักโทษการเมือง และนักโทษชาวอิหร่านที่ถือสองสัญชาติอีกจำนวนมาก

 
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งเดินขบวนมุ่งหน้าไปที่เรือนจำช่วงคืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันอาทิตย์เพื่อให้กำลังใจนักโทษ  ผู้ประท้วงเดินไปตามถนนที่มีการจราจรติดขัด เนื่องจากถนนที่มุ่งหน้าสู่เรือนจำถูกเจ้าหน้าที่ปิดกั้น บางคนจุดไฟเผา และบางคนตะโกนว่า "คาเมเนอีจงตาย" เพื่อต่อต้านผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ คาเมเนอี และกลุ่มสิทธิมนุษยชน อ้างว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 240 รายจากการปราบปรามผู้ประท้วง ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเยาวชน 32 ราย และมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 8,000 คนใน 111 เมืองและอำเภอ 

ไฟไหม้และจลาจลในเรือนจำ สภาพความเสียหายนึกเค้าโครงเดิมยาก รายงานล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline