- 01 พ.ย. 2565
ตำรวจสืบเต็มที่ เร่งตามหา "ชายสวมหูกระต่าย" ต้นตอโศกนาฏกรรมอิแทวอน พยานเล่าตรงกันหลายคน ชายคนนี้กับเพื่อนๆตะโกนบอกว่าให้ "ดันเลย"
จากกรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมอิแทวอน ที่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวเบียดเสียดกันจนถึงแก่ชีวิต ระหว่างร่วมงานเทศกาลฮาโลวีนที่อิแทวอน ในกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 1 พ.ย. 2565 ยอดผู้เสียชีวิต อิแทวอน พุ่งสูงแตะที่อย่างน้อย 156 ราย และบาดเจ็บ 151 ราย
ตัวเลขผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นชาวต่างชาติ 26 ราย จาก 14 ประเทศ โดยยอดผู้เสียชีวิตยังอาจเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากมีผู้อาการเข้าขั้นวิกฤต 29 ราย
ทั้งนี้เหตุการณ์อาจมีต้นตอมาจากการที่ฝูงชนเบียดเสียด ขณะเดินเข้าสู่ตรอกแคบลักษณะเป็นเนินและล้มทับกัน โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นตอนปลายช่วงวัย 20-30 ปี และผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งเป็นหญิง 101 ราย ซึ่งร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงอัด
โดยล่าสุดมีการเปิดเผยจากสื่อดังอย่าง สำนักข่าวโชซุนของเกาหลีใต้รายงานว่าตอนนี้ตำรวจจะเริ่มทำการสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบเพื่อค้นหา สาเหตุโศกนาฏกรรมอิแทวอน และเพื่อตรวจสอบยืนยันความจริงเกี่ยวกับข่าวลือว่ามีชายสวมที่คาดผมหูกระต่าย เป็นต้นตอของเหตุการณ์ เพราะเป็นคนตะโกนให้ดันกันนั่นเอง
ซึ่งข่าวลือที่ว่านั้นมีการพูดถึงจุดเริ่มต้นเหตุการณ์อิแทวอน ว่า "เกิดจากชายสวมที่คาดผมหูกระต่ายและกลุ่มเพื่อนอีก 4-5 คนของเขา เป็นผู้ตะโกนว่า "ดันเลย ผลักเลย"" เป็นผลทำให้ผู้คนเริ่มปลักและดันกันจนล้มทับกัน
โดยชาวเน็ตรายหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ออกมาเล่าว่า ตอนนั้นด้านหลังของเขามีชายคนหนึ่ง อายุราว 20 ปลาย ๆ ตะโกนขึ้นมาว่า "ดัน! ดัน!" จากนั้นชายคนนั้นก็ผลักตนจากด้านหลังจนตนล้มลง ซึ่งคำกล่าวนี้สอดคล้องกับคำให้การของพยานและผู้รอดชีวิตว่า มีใครบางคนจงใจผลักดันกัน
ข่าวที่ออกมาทำให้ผู้คนเริ่มตามหาชายใส่หูกระต่าย และมีชายคนหนึ่งถูกระบุตัวตนว่าเป็นตัวการหลักทำให้มีคนเข้าไปรุมโจมตีเขาและกลุ่มเพื่อนอย่างหนักจนเจ้าตัวออกมาชี้แจงและยืนยันว่าตนไม่ใช่ตัวการ พร้อมหาหลักฐานมายืนยันว่าเขาและเพื่อนๆได้ออกจากงานตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุเพื่อไปยังสถานที่อื่นเนื่องจากคนเยอะหนาแน่นจนเกินไป
ขณะที่ชาวเน็ตคนอื่นๆมองว่าไม่ควรล่าแม่มดใครจนกว่าจะทราบความจริงและในงานอิแทวอนครั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีชายใส่หูกระต่ายคนเดียว
ด้านตำรวจกำลังสืบสวนอย่างเต็มที่ โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิด 52 ตัวใกล้จุดเกิดเหตุ สอบสวนพยาน 44 คนและผู้บาดเจ็บ พร้อมกับตรวจสอบวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ผ่านทางออนไลน์เพื่อหาความจริงต่อไป
ขอบคุณภาพ xinhuathai
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline