เสียงระเบิดกระหึ่มรับปีใหม่ที่ ยูเครน ผู้นำสองชาติต่างลั่น ต้องเป็นผู้ชนะ

เสียงระเบิดกระหึ่มรับปีใหม่ที่ ยูเครน ผู้นำสองชาติต่างลั่น ต้องเป็นผู้ชนะ  เปิดพ.ศ.ใหม่ รัสเซียก็โจมตียูเครนหนักเลย ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า ในวันที่ 1 มกราคมว่า เสียงระเบิดยังคงกระหึ่มกรุงเคียฟและพื้นที่อื่นๆ ทั่วยูเครน ส่งผลให้ทางการยูเครนเปิดเสียงไซเรนเตือนการโจมตีทางอากาศทั่วประเทศในช่วงสองสามชั่วโมงของวันปีใหม่

 

ขณะที่ฝ่ายบริหารราชการทหารกรุงเคียฟรายงานว่า "วัตถุทางอากาศ" ที่ทางรัสเซียยิงออกมาจำนวน 23 ลูก ถูกทำลายแล้วเป็นที่เรียบร้อย

 

ขณะที่ วิตาลี คริตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟระบุว่า ชิ้นส่วนจากขีปนาวุธที่ถูกทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน สร้างความเสียหายต่อรถยนต์คันหนึ่งในใจกลางกรุงเคียฟ แต่ในเบื้องต้น ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต

โดยการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาที หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เผยแพร่ข้อความวันปีใหม่ ที่หวังว่าประเทศจะได้รับชัยชนะในสงครามที่ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 11 นี้ 

อีกทั้งยังเกิดขึ้นหลังจากที่มีการระดมยิงขีปนาวุธร่อนกว่า 20 ลูกโจมตีเป้าหมายหลายจุดในยูเครนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ดมิโทร ลูบิเน็ตส์ ผู้ตรวจการแผ่นดินด้านสิทธิมนุษยชนของยูเครนเรียกการรัวยิงขีปนาวุธนี้ว่าเป็น "ความสยดสยองในวันก่อนขึ้นปีใหม่"

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่พบเห็นเหตุการณ์รายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้น และเมื่อเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้น ประชาชนกรุงเคียฟจำนวนหนึ่งส่งเสียงตะโกนจากระเบียงบ้านตนเองว่า "ขอความรุ่งโรจน์จงบังเกิดต่อยูเครน ขอสรรเสริญเหล่าวีรบุรุษ"

พร้อมกันนี้ยังมีรายงานไม่เป็นทางการว่า เกิดระเบิดขึ้นในแคว้นทางใต้อย่างเคอร์ซอนและแคว้นทางเหนืออย่างจือโตมีร์

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ว่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของรัสเซียออกอากาศการแถลงของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ นานถึง 9 นาที ถือเป็นการแถลงยาวที่สุด นับตั้งแต่ขึ้นสู่อำนาจเมื่อ 22 ปีที่แล้ว

ตามรายงานระบุว่า ผู้นำรัสเซียกล่าวในตอนหนึ่ง ยกย่องทหารทุกนาย ซึ่งกำลังสู้รบอยู่ในยูเครน ว่าเป็นการต่อสู้ "เพื่อมาตุภูมิ เพื่อความจริง และเพื่อความยุติธรรม เพื่อรับประกันและปกป้องความปลอดภัยให้แก่บ้านเมือง"

ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียซึ่งยืนแถลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมีทหารทั้งชายและหญิงยืนเป็นฉากหลัง กล่าวเป็นนัยว่า "ช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนนับจากนี้" ต้องการ "ความสนับสนุนและความเสียสละ" จากทุกภาคส่วนในประเทศ

ปูตินกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลมอสโก "จัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง" ช่วยให้แยกแยะได้อย่างชัดเจน ระหว่าง "ความกล้าหาญกับการทรยศและการหักหลัง"

ก่อนที่ ปูติน จะประณามตะวันตก "โกหกเรื่องสันติภาพ" แล้วใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือ เพื่อบ่อนทำลายรัสเซีย ด้วยเหตุนี้ ปฏิบัติการทางทหารที่เปิดฉากเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 จะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย เพื่อพิทักษ์มาตุภูมิ ประชาชน และ "ดินแดนทางประวัติศาสตร์" ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำว่า "รัสเซียจะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน"

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline