ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง ลดต้นทุน รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ ก่อนรีบชี้แจง ... แต่ดูฟังไม่ขึ้น

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ กลายเป็นคลิปที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อปรากฏภาพของหญิง 2 คน ซึ่งสวมเสื้อกันเปื้อนสีแดงของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เดินออกมาที่ด้านนอกร้าน เพื่อตักกรองเอาน้ำมันใช้แล้วจากเศษอาหารที่ถูกทิ้งรวมกันในถังขยะใบใหญ่ นำใส่ภาชนะที่เตรียมมาหลายใบจนเต็ม ก่อนที่จะยกกลับเข้าไปในร้านอาหาร

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง ลดต้นทุน รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ ก่อนรีบชี้แจง ... แต่ดูฟังไม่ขึ้น

ตามรายงานระบุว่า คลิปดังกล่าวถูกบันทึกขึ้นได้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 ในเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน โดยภายหลังจากที่มีคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกไปบนสื่อออนไลน์ ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ผู้บริโภคหลายคนต่างรู้สึกโกรธแค้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง ลดต้นทุน รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ ก่อนรีบชี้แจง ... แต่ดูฟังไม่ขึ้น


ภายหลังจากเรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นทางสังคม วันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ทางพนักงานของร้านอาหารที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ได้ออกมาตอบโต้ โดยอ้างว่า น้ำมันเหลือใช้ที่ตักเก็บไปนั้น ไม่ได้นำไปใช้ประกอบอาหารซ้ำแต่อย่างใด แต่เก็บรวบรวมนำไปขายต่อให้กับคนที่นำไปกลั่น ทำเป็นน้ำมันดีเซล

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง ลดต้นทุน รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ ก่อนรีบชี้แจง ... แต่ดูฟังไม่ขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าทางร้านจะออกมาชี้แจงแล้ว แต่บรรดาผู้ใช้โซเชียลก็ยังเกิดความคลางแคลงใจอยู่ไม่น้อย เข้าไปถกเถียงว่าเหตุผลดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งหลายคนต่างตั้งคำถามว่า กลั่นน้ำมันดีเซลหรอ แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีบริษัทที่เชี่ยวชาญในการรีไซเคิลน้ำมันปรุงอาหารเหลือใช้ บ้างก็ระบุว่า จะเอาไปขายต่อ แล้วทำไมถึงตักใส่ถ้วย ใส่หม้อ แล้วกระบวยที่ใช้ตักล่ะ เอาไปใช้ทำอาหารต่อหรือเปล่า

ลูกค้าสะอิดสะเอียน เห็นความลับร้านอาหารชื่อดัง ลดต้นทุน รีไซเคิลน้ำมันจากถังขยะ ก่อนรีบชี้แจง ... แต่ดูฟังไม่ขึ้น

คลิกเพื่อชมคลิป จาก @fangshimin

ข้อมูลจาก Sina และ Weibo
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline