ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก "โจ ไบเดน" ตบตาศัตรู โผล่ยูเครน เยือนดินแดนสงครามแบบไม่ได้แจ้งกำหนดการล่วงหน้า

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม : การเยือนยูเครนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำสหรัฐฯ ที่แม้จะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะไม่ได้แจ้งกำหนดการล่วงหน้า แต่ก็เป็นเรื่องปกติในเชิงยุทธศาสตร์ที่เวลาบุคคลระดับผู้นำโลกไปเยือนดินแดนสงคราม จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยในระดับสูงสุด รวมทั้งการวางกำหนดการ "หลอก" ศัตรูด้วย...

 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม

 

 

 

เป็นหน้าที่ของทำเนียบขาวที่จะต้องวางกำหนดการ "ลวง" เพื่อให้แน่ใจว่าการเดินทางของประธานาธิบดีโจ ไบเดน "ต้องเป็นความลับสุดยอด" โดยเครื่องบินประจำตำแหน่ง Air Force One ได้ทะยานขึ้นตั้งแต่เช้ามืดของวันอาทิตย์ หลังจากรอให้ไบเดนเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะ "ไปหรือไม่ไป" เมื่อวันศุกร์ 

 


การเยือนยูเครนไม่เหมือนการเยือนสมรภูมิในประเทศอื่น เนื่องจากไม่มีฐานทัพสหรัฐฯ ไม่มีแม้แต่กองกำลังพันธมิตรคุ้มครองน่านฟ้า มีแต่ "แผนหลอก" ที่รวมทั้งกำหนดการเยือนปลอมๆ ของเช้าวันจันทร์ มีขบวนรถหุ้มเกราะกับเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ไปป้วนเปี้ยนในบริเวณแนวพรมแดนยูเครน 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม


เคท เบดดิงฟิลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว แถลงว่ามันไม่เหมือนการเยือนสมรภูมิสงครามของประธานาธิบดีคนอื่น ๆ อย่างอิรักและอัฟกานิสถาน เพราะไม่มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ทางภาคพื้นดินของยูเครน ทำให้การเยือนของไบเดนมีความท้าทายยิ่งขึ้น แต่มันก็เป็นความเสี่ยงที่ไบเดนน้อมรับ 

 


แม้แต่ผู้สื่อข่าวก็ยังโดนสับขาหลอก ทุกเย็นทำเนียบขาวจะแถลงกำหนดการวันรุ่งขึ้นของไบเดน แต่เมื่อวันอาทิตย์ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ไบเดนจะรับฟังรายงานสรุปรายวันด้านความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติก่อนจะออกจากทำเนียบขาวเพื่อเดินทางไปเยือนโปแลนด์ เวลา 18.40 น. แต่สิ่งที่ส่ง "inbox" ให้ผู้สื่อข่าวหลังเวลา 17.00 น.ของวันอาทิตย์ คือไบเดนเดินทางไปแล้ว ทั้งยังไปถึงครึ่งทางการเยือนกรุงเคียฟของยูเครนแล้วด้วย 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม

การเยือนครั้งนี้ไบเดนไปกับคณะเล็ก ๆ เน้นที่ปรึกษาใกล้ชิดแค่ไม่กี่คน กับทีมแพทย์กับตำรวจลับ โดยเดินทางไปที่ฐานทัพร่วมแอนดรูว์ตั้งแต่เช้ามืดของวันอาทิตย์ และจากที่เคยพาผู้สื่อข่าวแบบ "pool" ร่วมทางไปประมาณ 13 คน ก็ลดเหลือแค่ 2 คน คือผู้สื่อข่าวกับช่างภาพ และทั้ง 2 คน ได้รับฟังสรุปเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางที่จะไปและสาบานว่าจะเก็บเป็นความลับตั้งแต่วันศุกร์ ทั้งยังได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมทาง email ด้วยหัวเรื่องที่ไม่ทำให้ผิดสังเกตว่า "Arrival instructions for the golf tourney" 

 

คนที่ได้ติดตามคือ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ, เจน โอ'มัลเลย์ ดิลลอน รองหัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว และแอนนี โทมาซินี ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการประจำห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม


ตอนไปขึ้นเครื่องบิน  Air Force One ก็พบว่าจอดแอบอยู่ในร่มข้างโรงเก็บ ไม่เหมือนกับการเดินทางปกติที่จะจอดอยู่ในที่โล่งที่ลานจอด และนักข่าวกับช่างภาพก็ถูกขอเอาโทรศัพท์ไปเก็บไว้ ก่อนที่เที่ยวบินข้ามแอตแลนติกจะเริ่มเมื่อเวลา 04.15 น. และพบว่าเครื่องบินลำนี้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องบินประจำตำแหน่งลำอื่น โดยเป็นรุ่น 757 ที่จะเป็นที่สังเกตน้อยกว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน และใช้สัญญาณการเรียกขานว่า "SAM060" (Special Air Mission) แทนคำว่า "Air Force One" 

 


หลังแวะเติมน้ำมันที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในเมืองแรมสไตน์ของเยอรมนี ลูกเรือก็บ่ายหน้าไปยังเมืองแชชุฟของโปแลนด์ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเมืองแชชุฟได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับบุคคลระดับ VIP ที่สามารถเดินทางต่อโดยรถไฟมุ่งตรงสู่กรุงเคียฟ และด้วยเพราะน่านฟ้าเหนือยูเครนมีความเสี่ยงสูงต่อเครื่องบินรบของรัสเซีย ทำให้การเดินทางโดยรถไฟที่ใช้เวลา 10 ชั่วโมง ปลอดภัยที่สุด ส่วนการเดินทางไปยังสถานีรถไฟ ไบเดนกับคณะใช้เวลาอยู่ในขบวนรถ SUV กับ minivan เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

 


ไบเดนมีความปรารถนาจะไปเยือนกรุงเคียฟมาหลายเดือนแล้ว แต่หน่วยตำรวจลับที่ทำหน้าที่อารักขาประธานาธิบดีโดยตรงระบุว่า ไม่มีทางที่จะพาเขาเข้าไปและออกมาอย่างปลอดภัย แม้ว่าประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา, อดีตนายรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน และนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก ต่างก็ไปกันมาแล้ว 

นายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็ก จากอังกฤษ


ทางเลือกที่พอจะทำได้คือการรีบข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว เพื่อไปพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แล้วรีบกลับ หรือการเดินทางไกลไปยังเมืองลวีฟที่อยู่ทางตะวันตก แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไบเดนในขั้นตอนสุดท้าย 

 


ด้าน โจนาธาน ไฟน์เนอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ แถลงว่าประธานาธิบดีได้รับฟังการบรรยายสรุปอย่างครบถ้วน เกี่ยวกับแต่ละขั้นตอนของแผนและเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น เพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า "จะไปหรือไม่ไป" ในขณะที่ภายในห้องทำงานรูปไข่ในตอนนั้น เป็นการรวมตัวกันของสมาชิกคนสำคัญของทีมความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีทั้งพวกที่เข้าไปประชุมด้วยตนเองและพวกที่ประชุมทางไกล แต่ยังคงคอนเซปต์ให้มีจำนวนผู้เกี่ยวข้องน้อยที่สุดเพื่อให้แผนเป็นความลับมากที่สุด 

 


และแผนยังเพิ่มไปอีกขั้นเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด นั่นคือการเตือนให้รัสเซียถอยห่าง ในกรณีที่ฝ่ายนั้นอาจดำเนินการใด ๆ ที่อาจทำให้สหรัฐฯ กับรัสเซียต้องเข้าสู่สงครามกันโดยตรง เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ บอกว่าได้แจ้งไปยังรัสเซียว่าไบเดนจะเดินทางไปยังกรุงเคียฟในช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนเดินทาง



และด้วยเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของการสื่อสาร ทำให้ไม่ค่อยเข้าใจว่าฝ่ายนั้นจะโต้ตอบอย่างไร หรือจะเข้าใจข้อความที่สหรัฐฯ ต้องการสื่อสารในแบบไหน แต่ไบเดนก็ไปและรถไฟพาเขาออกเดินทางไปกรุงเคียฟเวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตลอดเส้นทางส่วนใหญ่มีแต่ความมืดแทบมองอะไรไม่เห็น นอกจากไฟถนนที่ค่อนข้างสลัวและเงาของอาคารที่อยู่ไกลออกไป 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนยูเครน
โลกได้รู้ว่าไบเดนไปเยือนกรุงเคียฟครั้งแรก ตอนที่มีรูปถ่ายที่แสดงให้เห็นเขาเดินอยู่กับประธานาธิบดีเซเลนสกี "ซึ่งผิดแผน" เพราะที่จริงทำเนียบขาวต้องการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจนกระทั่งไบเดนกลับถึงโปแลนด์โดยปลอดภัย แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น 

 


ที่จริงสื่อที่ร่วมคณะถูกห้ามส่งภาพแบบเรียลไทม์ที่จะทำให้รู้ว่าไบเดนอยู่ที่ไหน โดยให้ส่งหลังจากไปถึงกรุงเคียฟแล้วและไม่ให้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้สื่อข่าวที่สังเกตเห็นเครื่องบินรบของสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติเหนือน่านฟ้าโปแลนด์ติดพรมแดนยูเครน แต่ไม่ได้ข้ามน่านฟ้าเข้าไป ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้ง Boeing E-3 Sentry กับ Boeing RC-135W Rivet Joint ที่มีศักยภาพในการติดอุปกรณ์สอดแนมทั้งสองประเภท 


อย่างไรก็ตาม ส่วนรายละเอียดของการเยือนของไบเดนเผยแพร่ออกมาในระยะเวลา 1 ชั่วโมงหลังไปถึงแล้ว และได้พบกับเซเลนสกีกับโอเลนา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ที่ Mariinsky Palace และไบเดนก็อธิบายเหตุผลที่เขาไปเยือนในครั้งนี้ว่า "เป็นเรื่องสำคัญ" โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อยูเครนที่อยู่ในภาวะสงคราม 

ล้วงลึก ปฏิบัติการสับขาหลอก โจ ไบเดน ตบตาศัตรู โผล่เยือนดินแดนสงคราม
ภาพจาก President Joe Biden
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline