- 18 พ.ค. 2566
หนุ่มเอะใจ เพิ่งแต่งงานได้ครึ่งปี เมียโทรบอกคลอดลูกชาย อ้างคลอดก่อนกำหนด ก่อนตัดสินใจตรวจ DNA เห็นผลออกมายิ่งจุก!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเห็นใจอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มชาวจีนวัย 32 ปี อาศัยอยู่ในมณฑลหูหนาน เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี และตัวเขาเองก็มีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่ยังไม่แต่งงานมีครอบครัว เรื่องนี้ทำให้แม่ของเขาเริ่มร้อนใจจึงจัดหาแม่สื่อมาให้ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหญิงสาวอายุ 29 ปี เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสวย มีนิสัยอ่อนโยน ทั้งสองครอบครัวต่างก็พอใจกันและกัน ดังนั้นทั้งคู่จึงกลายมาเป็นคู่รักกันอย่างรวดเร็ว และหลังจากรู้จักกันได้เพียงเดือนเศษทั้งสองก็ไปจดทะเบียนสมรสและจัดงานแต่ง
ครอบครัวของฝ่ายชายมอบเงิน 170,000 หยวน (ประมาณ 8 แสนบาท) รวมทั้งซื้อบ้านและรถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 500,000 หยวน (ประมาณ 2.4 ล้านบาท) ให้เป็นของขวัญแต่งงานของทั้งคู่ อย่างไรก็ดี หลังแต่งงานฝ่ายหญิงได้ให้บ้านและรถเป็นชื่อของเธอ เนื่องจากกลัวว่าสามีจะเปลี่ยนใจในภายหลัง แม้ว่าครอบครัวของฝ่ายชายจะรู้สึกว่าคำขอนี้มากเกินไปสักหน่อย แต่เมื่อนึกถึงการแต่งงานของลูกชาย ทางครอบครัวจึงยินยอมทำตาม ทุกคนต่างคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้จะมีความสุข แต่หลังจากงานแต่งงานภรรยากลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จะมีอะไรกับสามี โดยใช้ทุกข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยง อีกทั้งหนึ่งสัปดาห์หลังจากงานแต่งงาน สามีก็ถูกย้ายไปทำงานในสถานที่ห่างไกล ดังนั้นทั้งคู่จึงแยกกันอยู่คนละที่โดยที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกันสักครั้ง
แต่หลังจาก 6 เดือนต่อมา จู่ๆ ภรรยาก็โทรเรียกให้สามีกลับมาที่บ้าน โดยบอกว่าเธอเพิ่งคลอดลูก สามีจึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้านทันที เมื่อเห็นภรรยาของเขาให้กำเนิดทารกเพศชายที่แข็งแรง สามีรู้สึกทึ่งเพราะทุกอย่างไร้สาระมาก เขาและภรรยาไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ พวกเขาจะมีบุตรได้อย่างไร อย่างไรก็ดี ภรรยายังพยายามโต้แย้งว่าเด็กเกิดก่อนกำหนด แม้ว่าเด็กทารกจะดูแข็งแรงไม่เหมือนคลอดก่อนกำหนดเลยสักนิด แลัเพื่อไขข้อสงสัยเหล่านี้ สามีจึงตัดสินใจพาลูกชายไปตรวจดีเอ็นเอ และผลก็ออกมาตามที่คิดไว้คือ เด็กชายไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขา เขาจึงนำใบแสดงผลกลับบ้านเพื่อเป็นหลักฐานถามความจริงจากภรรยา แต่นอกจากเธอจะไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆ ไม่แสดงความละอายหรือหวาดกลัว ยังเป็นฝ่ายประกาศว่าจะหย่าร้าง โดยอ้างว่าหากไม่ไว้วางใจกันอีกต่อไปพวกเขาก็ไม่ควรอยู่ด้วยกันต่อไป
ทั้งนี้ ฝ่ายสามีรู้สึกโกรธมากกับท่าทีของภรรยา เขาจึงตะโกนใส่เธอเสียงดัง เช่นเดียวกับแม่ของเขาที่โกรธเคืองและพยายามถามว่า "เด็กเป็นลูกของใครกันแน่?" แต่เธอก็ไม่ยอมตอบอะไร เพียงแค่พาเด็กทารกย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านแม่ของตัวเอง และเมื่อสามีตามไปที่บ้านแม่ของเธอเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่อง ก็พบว่าแม่ของภรรยายังคงปกป้องลูกสาวของตัวเอง โน้มน้าวให้ลูกเขยเปิดใจและให้อภัยภรรยา สุดท้ายฝ่ายสีมีต้องขอความช่วยเหลือจากนักข่าวท้องถิ่น เมื่อทุกคนมาถึงก็เห็นภรรยากำลังนั่งอยู่กับเด็กในอ้อมแขนของเธอ ทำตัวเฉยเมยและหลีกเลี่ยงการพูดถึงพ่อที่แท้จริงของเด็ก ทั้งนี้ สามีคาดคะเนว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของชายอื่นอยู่ก่อนแล้ว จึงตกลงแต่งงานกับเขาเพื่อหาพ่อให้ลูก และให้กำเนิดบุตรหลังจากแต่งงานได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ภรรยาปฏิเสธเรื่องนี้โดยกล่าวว่า เธอต้องการแต่งงานกับเขา เพราะเห็นว่าครอบครัวของเขามีฐานะดีมาก
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อนักข่าวท้องถิ่นซักถามอย่างจริงจัง ภรรยาจึงสารภาพว่าระหว่างออกเดทกับเพื่อนต่างเพศ เธอเมาแล้วมีสัมพันธ์กันก่อนพบว่าเธอท้อง แต่เธอไม่กล้าเอ่ยชื่อพ่อของเด็ก ไม่แน่ใจว่าเพราะไม่รู้หรือจงใจปกปิด เธอยังกล่าวด้วยว่าเห็นด้วยกับการหย่าร้าง แต่ปฏิเสธที่จะคืนบ้านและรถ สามีเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ไม่สบายใจมาก และหลังจากโต้เถียงและไกล่เกลี่ยกัน ไม่นานทั้งคู่ก็ตกลงที่จะหย่าร้างกัน นอกจากนี้ ภรรยายังยอมรับที่จะคืนบ้าน รถยนต์ และเงินจำนวน 150,000 หยวน (ประมาณ 7 แสนบาท) ให้กับครอบครัวของฝ่ายชายด้วย