- 24 พ.ค. 2566
หนุ่มทายาทเศรษฐีวัย 18 เพิ่งได้รับมรดกกว่าห้าร้อยล้าน ถูกพบเสียชีวิต หลังจดทะเบียนสมรสกับเพศเดียวกันเพียง 2 ชั่วโมง แม่ใจสลาย ไม่เชื่อว่าลูกชายของจะกระโดดตกลงมาเองอย่างแน่นอน
จากกรณีที่สื่อต่างประเทศต่างรายงานเรื่องราวของ นายไล่ ทายาทเศรษฐีชาวไต้หวันวัย 18 ปี ที่เพิ่งได้รับมรดกมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ ประมาณ 563 ล้านบาท จากการเสียชีวิตของพ่อเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ถูกพบเป็นศพที่บริเวณพื้นนอกคอนโดหลังหนึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากจดทะเบียนสมรสกับนายเซี่ย วัย 26 ปี โดยทางด้านแม่ของผู้เสียชีวิต ชื่อว่านางเฉิน สัญชาติจีนพร้อมทนายความ จัดงานแถลงข่าวเรื่องนี้ขึ้นที่เมืองไถจง ตอนกลางของไต้หวัน เมื่อวันศุกร์ (19 พ.ค.) ที่ผ่านมา ระบุว่า
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เป็นวันจัดงานฌาปนกิจสามีที่เสียชีวิตมาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ต่อมาตนและลูกชายจึงนำเถ้ากระดูกไปไว้ที่อาคารเก็บอัฐิ และขณะนั้นนายเซี่ย ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ก็ติดต่อไปหาลูกชาย และคะยั้นคะยอให้ออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าจะไปจัดการมรดก
"ต่อมาเวลา 07.00 น. วันรุ่งขึ้น (4 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายเซี่ยมารับลูกชายที่บ้านและพากันออกไป แต่หลังจากนั้นหลายชั่วโมงลูกชายก็ไม่ติดต่อมา จึงพยายามตามหา แต่สุดท้ายก็ได้รับข่าวร้ายจากตำรวจว่าลูกชายของตนเสียชีวิตแล้วเพราะพลัดตกลงมาจากชั้น 10 ของคอนโดมิเนียมหลังหนึ่งในเขตเป่ย์ถุน เมืองไถจง และต่อมาก็ทราบอีกว่าชั้นดังกล่าวเป็นชั้นที่นายเซี่ยอาศัยอยู่"
แต่เรื่องที่น่าตกใจยังไม่จบเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นนางเฉิน แม่ของผู้เสียชีวิต ก็ทราบอีกว่า นายไล่จดทะเบียนสมรสกับนายเซี่ยเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก่อนเสียชีวิต ขณะที่ ทนายความของนางเฉิน กล่าวต่อสื่อมวลชนในการแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ (19 พ.ค.) ว่าเป็นไปได้ที่นายไล่ถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตเพื่อเอามรดก
นางเฉิน แม่ผู้เสียชีวิตระบุอีกว่า ตนไม่เชื่อว่าลูกชายของจะกระโดดตกลงมาเองอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเหหตุผลต้องทำเช่นนั้น อีกอย่างลูกชายของตนเป็นคนว่านอนสอนง่าย และที่ผ่านมาเพิ่งได้รับจักรยานยนต์เป็นของขวัญและเพิ่งสอบใบขับขี่มาได้ ทั้งยังบอกตนว่าจะพาตนซ้อนไปเที่ยวด้วย อีกทั้ง ลูกชายของตนไม่ได้ชอบผู้ชาย เพราะเคยสารภาพรักเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่โรงเรียน และลูกชายเคยเจอนายเซี่ยแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทนายความเผย นายเซี่ยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อผู้เสียชีวิตมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นผู้จัดการมรดกของนายไล่ผู้พ่อด้วย จึงเชื่อว่านายเซี่ยทราบมูลค่าของสินทรัพย์เเหล่านี้เป็นอย่างดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดิน