- 23 มิ.ย. 2566
อดีตลูกจ้าง บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น เคยเตือนเรื่องความปลอดภัย "เรือดำน้ำไททัน" แต่สุดท้ายกลับถูกไล่ออก
จากเหตุการณ์ที่คนทั่วโลกต่างเฝ้าติดตาม สำหรับการสูญหายของ เรือดำน้ำไททัน ของ บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น ที่หายสาบสูญไปพร้อมลูกเรือ 5 คน ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2566 ระหว่างลงไปทัวร์ซากเรือไททานิค
ก่อนที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ยานพาหนะควบคุมระยะไกล (ROV) ที่ถูกส่งลงไปสำรวจใต้น้ำเพื่อค้นหาเรือดำน้ำไททันสูญหาย ได้ค้นพบเศษซากชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณก้นทะเลใกล้ๆ กับซากเรือไททานิคซึ่งเป็นจุดที่เรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อไป
ก่อนที่ต่อมาช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (23 มิ.ย. 2566) ตามเวลาไทย พลเรือตรี จอห์น มอเกอร์ แห่งหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ได้แถลงว่าชิ้นส่วนที่พบจำนวน 5 ชิ้นเป็นชิ้นส่วนของเรือดำน้ำไททัน คาดว่าเกิดจากการระเบิดและผู้อยู่บนเรือทั้ง 5 คนเสียชีวิตแล้ว โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อใดหรือจากสาเหตุใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาต่อไปเพื่อความกระจ่าง แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าจะสามารถกู้ร่างของผู้เสียชีวิตได้หรือไม่
ขณะที่ บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น ผู้ให้บริการดำน้ำท่องเที่ยวและดำน้ำลึกชมซากเรือไททานิค ก็ได้ออกแถลงการณ์ด้วยเช่นกันว่า ผู้โดยสารพร้อมคนบังคับเรือ รวม 5 ชีวิต ได้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศได้รายงานว่า บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น เคยสั่งปลด นายเดวิด ล็อคริดจ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของบริษัท ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาหยิบยกปัญหาความปลอดภัยของเรือดำน้ำไททันขึ้นมาพูด และขอให้บริษัทตรวจสอบความปลอดภัยของเรือดำน้ำเพิ่มเติมเมื่อปี 2561
หลังจากนั้น โอเชียนเกต ได้ฟ้องนายล็อคริดจ์ ฐานที่เขาเปิดเผยความลับของบริษัท ขณะที่นายล็อคริดจ์ปฏิเสธและอ้างว่าคดีของโอเชียนเกต เป็นความพยายามที่จะกีดกัน ผู้แจ้งเบาะแสไม่ให้แจ้งปัญหาด้านการควบคุมคุณภาพและความกังวลด้านความปลอดภัยที่คุกคามความปลอดภัยของผู้โดยสารผู้บริสุทธิ์ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงคดีความกันได้
นอกจากนี้ ทางด้าน Will Kohnen ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเรือดำน้ำแบบมีคนขับของสมาคมเทคโนโลยีทางทะเล ได้เคยส่งจดหมายลงวันที่ 27 มี.ค. 2561 ถึง CEO โอเชียนเกต ซึ่งในจดหมายได้เอ่ยถึงความกังวลเกี่ยวกับเรือดำน้ำไททัน เนื่องจากปัญหาไม่ได้เกิดจากข้อบกพร่องด้านการออกแบบเพียงข้อเดียว แต่ CEO โอเชียนเกต เลือกที่จะไม่ดำเนินการตามกระบวนการรับรองที่เป็นที่ยอมรับของอุตสาหกรรมสำหรับการออกแบบ การผลิต และการทดสอบเรือดำน้ำ