เปิดคำสารภาพ นักบินสายการบินสหรัฐฯ หลังพยายามดับเครื่องกลางอากาศ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า โจเซฟ เดวิด เอเมอร์สัน นักบินวัย 44 ปี พยายามดับเครื่องกลางอากาศ โดยเป็นเครื่องบินของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ส (Alaska Airlines) เที่ยวบิน 2059 ซึ่งถูกทางการควบคุมตัวไว้แล้ว ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 83 กระทง รวมถึงข้อหาทำให้เครื่องบินตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้เขายังจะถูกสอบสวนโดยตำรวจและเอฟบีไอสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

ซึ่งล่าสุด สื่อต่างประเทศรายงานว่า เอเมอร์สัน ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเอกสารของศาลระบุว่า เอเมอร์สัน คิดว่าตนเองมีอาการสติแตก และยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขากินเห็ดเมาที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน และยังมีอาการของโรคซึมเศร้า และปฏิเสธว่าเขาไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามฆ่าถึง 83 กระทง

ทางด้าน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่ง บอกกับทางทีมสอบสวน ระบุว่า ได้ยิน เอเมอร์สัน พูดว่า "ฉันทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง" และเขาพยายามจะฆ่าทุกคน ในการให้ปากคำกับตำรวจ เอเมอร์สัน กล่าวว่า เขามีอาการสติแตก และไม่ได้นอนมาเป็นเวลา 40 ชั่วโมงแล้ว และเขาเอื้อมมือไปดึงที่ปิดเครื่องยนต์ฉุกเฉินเพาะเขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่

"ผมรู้สึกไม่โอเค แต่ดูเหมือนนักบินก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่ผมทำ มันดูไม่ถูกต้อง” เอเมอร์สันกล่าว และว่า เขายอมรับในสิ่งที่ทำ และไม่ได้ต่อสู้กับข้อกล่าวหาใดๆ ที่ต้องการฟ้องร้องต่อเขา

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

ทางด้าน โฆษกของสำนักงานอัยการสหรัฐ เผยกับ บีบีซี ระบุว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเอเมอร์สันอยู่ใต้อิทธิพลของสารที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนขณะลงมือก่อเหตุหรือไม่

นอกจากข้อกล่าวหาเรื่องการพยายามฆ่าแล้ว เอเมอร์สัน ยังถูกตั้งข้อหาทำให้เป็นอันตรายโดยประมาท 83 กระทง และทำให้เครื่องบินตกอยู่ในอันตราย 1 กระทง