ชูวิทย์เปิด "ไดอารี่คุก" จาก นักโทษรุ่นพี่ ฝากถึง บุญทรง และ ภูมิ

ชูวิทย์เปิด "ไดอารี่คุก" จาก นักโทษรุ่นพี่ ฝากถึง บุญทรง และ ภูมิ

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองจอมแฉ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I'm Back" แนะนำนายบุญทรง กับนายภูมิ ถึงวิธีการใช้ชีวิตในเรือนจำ ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่เคยต้องโทษคดีมาก่อน โดยนายชูวิทย์ระบุว่า...

ชูวิทย์เปิด "ไดอารี่คุก" จาก นักโทษรุ่นพี่ ฝากถึง บุญทรง และ ภูมิ

เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาจบ ผู้ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกอย่างคุณบุญทรงและพวก ที่ถูกลงโทษหนักขนาด 30-40 ปี ย่อมมีอาการหูอื้อ ตาลาย ความดันพุ่ง หากโทษเกิน 15 ปี กรมราชทัณฑ์มีระเบียบให้ไปอยู่เรือนจำคลองเปรม ถ้าต่ำกว่า 15 ปี อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่ก็ดีไปอย่าง เพราะที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แดนแรกรับมีพื้นที่แค่ 2 ไร่ครึ่ง ช่วงไหนตำรวจฟิตจัด จับ เขมร พม่า แรงงานต่างด้าวเข้ามา อัดไปแน่นถึงเกือบพันคน
คิดดูแล้วกัน บ้านเศรษฐีพื้นที่ 2-3 ไร่ อยู่กันแค่ 5-10 คน แต่นี่อยู่ร่วมพันคนมันจะแน่นขนาดไหน
ไดอารี่คุกที่เป็นตารางเวลาซ้ำซากเหมือนกันทุกวัน ฝากเอาไว้ในฐานะนักโทษรุ่นพี่ก็แล้วกัน
05.30น. ตื่นนอน
05.45 น. เก็บที่นอน จัดเรียงที่นอนให้เป็นระเบียบ วางป้ายชื่อบนที่นอน (ไม่รู้จะมีระเบียบโง่ๆแบบนี้ทำไม?)
06.00 น. เช็ดทำความสะอาดพื้นห้อง (ไม่มีกระเบื้อง ถูจนสีพื้นถลอก)
06.15 น. นับยอด ครั้งที่ 1 เพื่อเตรียมตัวเปิดขัง (ต้องเช็คทุกเช้า กลัวหนีตอนกลางคืน)
06.30 น. เปิดประตูห้องขัง
06.35น. ทำธุระส่วนตัว เข้าบล็อค (หน้าสลอน ทักทายกันได้ เห็นกันตลอดแม้กระทั่งตอนอึ ไม่มีความลับในคุก)
06.45 น. วิ่งออกกำลังกายรอบสนาม (สนามเท่าสนามบาส วิ่งจนงง เหงื่อยังไม่ออกเลย)
07.15 น. อาบน้ำ (อาบกลางแจ้ง มีเพื่อนแก้ผ้าอาบน้ำเป็นร้อย)
07.30 น. กินอาหารเช้า (เมนู โจ๊ก น้ำเต้าหู้ แม่งมีอยู่ 2 อย่าง อันนี้สั่งแบบเสียเงิน แบบที่ไม่เสียเงินเรียกอาหารหลวง เป็นแกงไม่มีสัญชาติ มีแต่วิญญาณ ตอนกระเดือกลงต้องกลั้นหายใจ)
07.45 น. เตรียมตัวเข้าแถว ตรวจนับยอดครั้งที่ 2 (มันจะเช็คทำไมบ่อยๆ เพิ่งเช็คไปเมื่อกี๊นี้เอง หางานให้ผู้คุมทำ ไม่งั้นทั้งวันก็ส่องแต่พระ)

 

08.00 น. เคารพธงชาติ สวดมนต์ (สวดมาก สวดนาน ให้แม้กระทั่งเปรตมีความสุข แต่พวกกูมีทุกข์)
08.20 น. เข้ากองงาน เช็คยอดประจำกองงาน (ครั้งที่ 3) (นี่ตื่นมายังไม่ถึง 3 ชั่วโมงเลย นับยอดไป 3 รอบแล้ว คิดดูละกันว่าบ้าหรือเปล่า)
08.30 น. เริ่มทำงาน (ห้องสมุด) (จะมีอะไรทำในห้องสมุด ยกเว้น อ่านหนังสือ ค้นไปเจอหนังสือ “อ่างอาบน้ำทองคำ”)
10.30 น. พักกินข้าวเที่ยง (แม่งกินเที่ยงเร็วมาก เดี่ยวดูแล้วกันว่ากินเย็นกี่โมง)
12.30 น. ออกเยี่ยมญาติ (เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข แม้ไม่ได้สัมผัสอิสรภาพ แต่อย่างน้อยก็ยังได้เห็นคนมีอิสรภาพผ่านช่องลูกกรง ดูเมียเราสวยขึ้นโว้ยย)
13.00 น. เช็คยอด ครั้งที่ 4 (เอาอีกละ ในคุกไม่เคยหยุดเช็คยอด จะกลัวหนีอะไรหนักหนา แต่จริงๆรอบนี้เป็นรอบมั่ว บางคนก็ไปเยี่ยมญาติ บางคนก็ไปทำงานนอกแดน)
13.05 น. เข้ากองงาน (ห้องสมุด) (กลับมานั่งทรมานเพ้อเจ้อ แต่ก็ยังดีกว่ากองงานอื่น แม่งนรกของแท้ หากทำไม่ได้ตามยอดโดนตบ)
14.00 น. กินข้าวเย็น (เห็นไหม? ว่ากินข้าวเย็นตอนบ่าย 2 คิดดูแล้วกันจะยัดลงไปที่ไหน แต่ก็ต้องกินเพราะถ้าไม่กินเข้าขัง 15 ชั่วโมง มันให้เอาน้ำขึ้นไปขวดเดียว น่าจะจับไอ้คนออกกฏมาขังดูบ้าง มันจะได้รู้รสชาติว่าหิวเป็นยังไง)
14.30 น. อาบน้ำ (รีบไปแก้ผ้าอาบน้ำกลางแดด แทบตาลายเพราะแต่ละคนสักลายพร้อยจนเวียนหัวมากๆ)
15.00 น. เข้าแถวขึ้นเรือนนอน (ต้องตรวจค้นทีละคนว่าเอาข้าว เอาบุหรี่ ขึ้นไปบนเรือนนอนหรือเปล่า อนุญาตให้น้ำขวดเดียว มันบ้าเข้าขั้น เพราะหากพบบุหรี่ก็จะให้กินบุหรี่ บางคนเลยซ่อนที่ง่ามตูด ส่วนอาหารไม่ได้ขึ้นอดแดก เพราะกลัวจะไปทำเลอะเทอะบนเรือนนอน)
15.30 น. เช็คยอด ครั้งที่ 5 ปิดห้องขัง (เริ่มปูที่นอน แต่ขอโทษ ร้อนสัสๆ เพราะอบแดดอากาศไม่ระบาย คนก็เยอะ นอนยัดเข้าไปห้องละ 40-50 คน จนไม่มีทางเดิน หากเผลอไปเหยียบที่นอนมีเรื่องกระทืบอีก แล้วมึงจะให้กูเดินไปบล็อคยังไงวะ?)
18.00 น. สวดมนต์ (ทำอย่างกับจำวัดสวดเช้าสวดเย็น ชุดใหญ่เกือบครึ่งชั่วโมง แต่พอเดินชนกันนิดเดียวแม่งแทบจะฆ่ากันตาย)
18.30 น. ดูทีวี อ่านหนังสือ นอน (ใครอยากดูทีวี อ่านหนังสือ นอนให้คนนวด แอบพกของขึ้นมากิน ดูหนังสือโป๊ เป็นช่วงตามอัธยาศัย ทีวีเปลี่ยนช่องไม่ได้ เพราะคุมมาจากส่วนกลาง แต่หากมีถ่ายทอดฟุตบอลคู่ดังสามารถขอได้ อัตราต่อรองเหมือนข้างนอก แต่จ่ายเป็นบุหรี่)
21.30 น. ปิดทีวี (ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของความทุกข์ทรมาน จะลุกจะเดินก็ไม่ได้บ่อย เพราะนอนเรียงกันเป็นตับระเกะระกะ บางคนสวดมนต์ บางคนนั่งสมาธิ บางคนนอนข่มตาให้หลับคิดเพ้อเจ้อ และบางคนไปเล่นว่าว)
หมายเหตุ ในคุกเวลานอนไม่เคย “ปิดไฟ” (เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น ในเรือนนอนจึงเปิดไฟนีออนไว้ตลอด นักโทษแต่ละคนต้องหาผ้าปิดตา เพราะต้องนอนภายใต้ความสว่างจ้า)
ไม่ใช่แค่คุณบุญทรงและพวกเท่านั้นที่จะต้อง "ปรับตัวปรับใจ" แต่บรรดาญาติๆก็ต้องปรับตัวปรับใจด้วย ว่าวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

 

ขอขอบคุณ ชูวิทย์ i'm back