ระทมทุกข์ !!! เผยละเอียดอาการสรยุทธใช้กรรมโกงกับคืนแรกในเรือนจำ ....ทนายความเข้าพบ เผยคำพูดหลังคุยกัน! (มีคลิป)

วันที่ 30 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายสรยุทธ์ เครียด นอนเรือนจำคืนแรก ร่วมกับ นักโทษคดีการเมือง-ทนายเข้าเยี่ยมแล้ว

นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เปิดเผยภายหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวชื่อดังและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำเลยในคดียักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลา มาไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่ช่วงเมื่อวานนี้ โดยเบื้องต้น นายสรยุทธ มีอาการเครียด ซึ่งเป็นอาการปกติของผู้ต้องขัง แต่ยังไม่น่าเป็นห่วง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา นายสรยุทธ ได้ขอหนังสือธรรมะ ก่อนที่จะนอนหลับในเวลาประมาณเที่ยงคืน

ขณะผลการตรวจสุขภาพพบว่า นายสรยุทธมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง และภาวะไขมันในเลือดสูง คาดว่าจะได้รับยาในภายหลัง แต่อาการโดยรวมไม่น่าเป็นห่วง ซึ่งทางเรือนจำได้จัดให้อยู่ในแดนแรกรับ ห้อง 11 ซึ่งเป็นห้องที่มีผู้ต้องหาคดีการเมือง และผู้ต้องหาคดี 112 รวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีญาติเข้ามาเยี่ยมแล้ว 10 คน ซึ่งทางเรือนจำได้เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมเป็นเวลา 15 นาที ส่วนทนายความส่วนตัวสามารถเข้าพบได้ตลอดในเวลาทำการ

ขณะที่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความ ได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่าจะขอเข้าไปพบนายสรยุทธก่อน โดยจากมีการพูดคุยกันเรื่องการพิจารณาต่อสู้คดีและการประกันตัวในระหว่างรอการฎีกา ส่วนรายละเอียดอื่นๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีญาติเข้ามาเยี่ยมแล้ว 10 คน ซึ่งทางเรือนจำได้เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมเป็นเวลา 15 นาที ส่วนทนายความส่วนตัวสามารถเข้าพบได้ตลอดในเวลาทำการ รวมถึง นางสาวพิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ หรือน้องไบร์ท ผู้ประกาศข่าวที่เคยร่วมงานกัน ก็ได้เดินทางมาเข้าเยี่ยมอีกด้วย

ระทมทุกข์ !!! เผยละเอียดอาการสรยุทธใช้กรรมโกงกับคืนแรกในเรือนจำ ....ทนายความเข้าพบ เผยคำพูดหลังคุยกัน! (มีคลิป)

ล่าสุดภายหลังนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความ เปิดเผยภายหลังการเข้าเยี่ยมนายสรยุทธ ว่า นายสรยุทธได้มีการปรึกษาในเรื่องการต่อสู้คดี การประกันตัว การประกันตัวอยู่ระหว่างรอการยื่นฎีกา อยู่ระหว่างการร่างคำร้องและรายละเอียดต่างๆในการต่อสู้ฎีกา และประเด็นปัญหาที่จะให้ศาลฎีกาพิจารณาในประเด็นต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งทำข้อมูลให้เรียบร้อย จะดำเนินการให้เร็วที่สุด ภายใน 30 วันหลังมีคำพิพากษา ของศาลอุทธรณ์ นอกจากนี้ทีมทนายความอยู่ระหว่างการอ่านและศึกษาคำพิพากษาอย่างละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ ศาลวินิจฉัยว่า เป็นคดีที่มีข้อจำกัดในการประกันตัวและยื่นฎีกาจึงต้องพิจารณาในเรื่องประเด็นปัญหาและข้อเท็จจริง ที่จะให้ศาลวินิจฉัย จึงต้องเตรียมเรื่องคำร้องการฎีกาและการรับรองประเด็นปัญหาต่างๆที่จะให้ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ละเอียดที่สุด ทั้งนี้ไม่ได้มีการสั่งการเรื่องอื่นๆ เป็นพิเศษ ทั้งเรื่องความต้องการส่วนตัวและเรื่องคดีความ ซึ่งระหว่างการเข้าไปพูดคุยกับนายสรยุทธไม่ได้พบกับญาติและเพื่อนของนายสรยุทธ เนื่องจากเยี่ยมคนละช่วงเวลากัน

ระทมทุกข์ !!! เผยละเอียดอาการสรยุทธใช้กรรมโกงกับคืนแรกในเรือนจำ ....ทนายความเข้าพบ เผยคำพูดหลังคุยกัน! (มีคลิป)

โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.พิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง อดีตนักเล่าข่าว บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้มฯ เป็นจำเลยฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ 

คดีนี้คือ คดีที่ศาลอาญาเคยมีคำพิพากษาก่อนหน้านี้ เมื่อ29 ก.พ.59  เป็นคดีที่ อัยการฟ้อง นายสรยุทธ และเจ้าหน้าที่ อสมท.รวมถึงเจ้าหน้าที่บริษัทไร่ส้มฯ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทุจริตจากกรณีไม่ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินของ อสมท.   ซึ่ง นายสรยุทธ ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก13 ปี 4 เดือน และได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์สู้คดี  สุดท้ายหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายสรยุทธอาจจะขอประกันตัวยากขึ้น

จนกระทั่งเวลา 16.30 น.ที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฏีกาได้มีคำสั่งการประกันตัวถึงศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ สืบเนื่องจากกรณี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง และเจ้าหน้าที่บริษัทำไร่ส้มจำกัด กับอดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำเลยที่ได้ยื่นคำร้องหลักทรัพย์คนละ 4 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัวสู้คดีในชั้นฎีกา โดยมีนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความของ นายสรยุทธ และคณะได้เข้าฟังคำสังของศาลฏีกา ทั้งนี้ศาลฏีกาได้พิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์ในการประกันตัวของจำเลยเเล้วเห็นว่า คดีต้องห้ามฎีกา ในชั้นนี้จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวพวกจำเลย ยกคำร้อง

สำหรับการยื่นคำร้องประกันตัวใหม่นั้น จำเลยทั้ง 3 สามารถยื่นได้ในเวลาต่อไปจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษาศาลฏีกาในคดีหลักออกมา เพียงแต่การยื่นคำร้องใหม่นั้น จำเลยจะต้องระบุเหตุและข้อเท็จจริงใหม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมของศาลฏีกาซึ่งเป็นศาลสูง