อดีตอัยการสูงสุด แจงปมคดี บอส กระทิงแดง ล่าช้าจนหมดอายุความ ติงสังคมออนไลน์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยให้ระวังในการแสดงความเห็น

กรณีเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เกิดคดีสะเทือนขวัญกลางกรุงเกี่ยวข้องกับทายาทหมื่นล้าน “นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา” ลูกชายคนเล็ก“เฉลิม อยู่วิทยา” เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง “กระทิงแดง” ได้ซิ่งรถ“เฟอร์รารี่” สีบรอนซ์เทา ด้วยความเร็วสูงถึง 170 กม./ชม. พุ่งชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ ขณะกำลังขี่จักรยานยนต์ไทเกอร์ ตราโล่ 51511 กลับ จนเสียชีวิตคาเครื่องแบบ และยังลากร่างของผู้ตายไถลไปไกลหลายร้อยเมตร

อดีตอัยการสูงสุด แจงปมคดี บอส กระทิงแดง ล่าช้าจนหมดอายุความ  ติงสังคมออนไลน์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยให้ระวังในการแสดงความเห็น ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยตามคราบน้ำมัน ไปจนถึงบ้านของเจ้าสัวกระทิงแดง ภายในซอยสุขุมวิท 53 แต่ถูกคนในบ้านห้ามไม่ให้เข้า เดือดร้อนถึงพ.ต.ท.คำรณวิทย์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้น จนต้องยกกำลังปิดล้อมบ้านพัก ถึงยอมเปิดประตูให้เข้าไป แต่ไม่พบเจอตัวนายวรยุทธ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีตำรวจคนหนึ่งนำพ่อบ้านซึ่งมีหน้าที่ดูแลรถมอบตัว อ้างว่าเป็นคนขับรถหรูครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้ พ.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นอย่างยิ่ง และถูกจับได้ว่าเป็นแพะรับบาปแทนลูกมหาเศรษฐี
สุดท้ายนายวรยุทธ ทนแรงกดดันสังคมไม่ไหว จึงยอมออกมามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง และถูกแจ้งข้อหาหนัก ขับรถชนผู้อื่นจนเสียชีวิต ต่อมาคดีนี้ถูกลบเลือนหายเข้ากลีบเมฆ ซึ่งนายวรยุทธ ได้อ้างว่าติดภารกิจต่างประเทศและป่วยหลายครั้ง
จนวันที่ 3 กันยายน 2560 ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนตามสมควรและไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันทีที่ชน ขาดอายุความ ตามกฎหมาย
สำนักข่าวต่างประเทศยังได้รายงานต่อว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าตำรวจไทยทราบเรื่องนี้หรือไม่ และได้แจ้งขอให้มีการจับกุมตัวหรือไม่ โดยเมื่อเดือน พฤษภาคม ทางการไทยได้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวรยุทธ และเผยว่าจะแจ้งต่อองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพล ให้ออกหมายแดงเพื่อแจ้งไปยังประเทศต่างๆ ให้มีการติดตามตัวนายวรยุทธ ล่าสุดทางเว็บไซต์อินเตอร์โพล(องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ) ได้เผยแพร่หมายจับบอสสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว


ด้าน ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณี นี้ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับที่อัยการสั่งฟ้องขับรถหรูเฟอร์รารี่โดยประมาทชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 จะขาดอายุความข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนตามสมควรและไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันทีที่ชน ในวันที่ 3 กันยายน นี้ ว่า แม้ข้อหาไม่หยุดรถแสดงตัวเพื่อช่วยเหลือ จะขาดอายุความ ก็ไม่กระทบการดำเนินกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนนายวรยุทธ ผู้ต้องหาที่อัยการมีคำสั่งฟ้องไว้แล้ว ซึ่งข้อหานั้นโทษเบา ส่วนข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่อัตราโทษหนักยังไม่ขาดอายุความโดยมีอายุความดำเนินคดี 15 ปีนับจากเกิดเหตุจะสิ้นสุดอายุความในปี 2570 ซึ่งตามขั้นตอนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนอัยการก็แจ้งข้อมูลข้อหาหนักเป็นหลักด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นในการดำเนินกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยังคงทำกันต่อไป
ขณะที่ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงานข่าว นายวรยุทธ์ หลังเขาเดินทางออกจากไทยเพียงไม่กี่วันก่อนกำหนดขึ้นศาลวันที่ 27 เมษายน ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ไปยังประเทศสิงคโปร์ ก่อนเดินทางต่อไปยังไต้หวันในวันที่ 28 เมษายน และเข้าพักที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลในกรุงไทเป โดยระหว่างนั้นได้เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ในเฟซบุ๊คจาก Boss Yoovidhya เป็น Bee Toh หลังจากนั้นนายวรยุทธได้เดินทางออกจากไต้หวันโดยมีจุดหมายปลายทางตามแจ้งว่าสิงคโปร์ แต่ไม่มีการยืนยัน

อดีตอัยการสูงสุด แจงปมคดี บอส กระทิงแดง ล่าช้าจนหมดอายุความ  ติงสังคมออนไลน์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยให้ระวังในการแสดงความเห็น

 

สำนักข่าวต่างประเทศยังได้รายงานต่อว่า ไม่สามารถยืนยันได้ว่าตำรวจไทยทราบเรื่องนี้หรือไม่ และได้แจ้งขอให้มีการจับกุมตัวหรือไม่ โดยเมื่อเดือน พฤษภาคม ทางการไทยได้ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวรยุทธ และเผยว่าจะแจ้งต่อองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพล ให้ออกหมายแดงเพื่อแจ้งไปยังประเทศต่างๆ ให้มีการติดตามตัวนายวรยุทธ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาทางเว็บไซต์อินเตอร์โพล(องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ) ได้เผยแพร่หมายจับบอสสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว

อดีตอัยการสูงสุด แจงปมคดี บอส กระทิงแดง ล่าช้าจนหมดอายุความ  ติงสังคมออนไลน์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยให้ระวังในการแสดงความเห็น


ล่าสุด วันที่ 17 ก.ย นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ระบุถึงคดีดังกล่าวหลังจากเกิดกระเสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดถึงความล่าช้าจนทำให้คีความหมดอายุความไปแล้ว 3 คดี จากทั้งหมด 4 คดีด้วยกัน โดยระบุว่าในขั้นตอนของคดีนายวรยุทธนั้น ทางผู้ต้องหาได้ทำการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ระบุไว้ว่า หากมีเหตุที่จะร้องขอความเป็นธรรม สามารถทำได้ทุกระดับชั้น เท่าที่ทราบในเรื่องนี้ เดิมนายวรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรมมา และได้ข้อยุติแล้ว แต่ต่อมากลับร้องไปที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วก็เลื่อนคดีมา เพราะมีหนังสือจากสภาฯ มาว่า ทางอัยการยังสอบไม่ครบ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับด้วยว่า คดีของนายวรยุทธ เป็นที่สนใจของสังคมเป็นอย่างมาก มีการแสดงความคิดเห็นและส่งต่อกันจนอาจจะผิดพลาดในข้อเท็จจริงบางประการไป เพราะจริง ๆ พนักงานสอบสวนได้มีการตั้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท กับตำรวจที่เสียชีวิตด้วยเช่นกัน อีกทั้งครอบครัวอยู่วิทยาได้เยียวยาช่วยเหลือญาติของผู้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่รอผลของคดี จึงอยากให้สังคมไตร่ตรองและระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ ที่ทุกวันนี้ทำตัวเป็นศาลเตี้ย

อดีตอัยการสูงสุด แจงปมคดี บอส กระทิงแดง ล่าช้าจนหมดอายุความ  ติงสังคมออนไลน์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ยให้ระวังในการแสดงความเห็น