- 09 ก.พ. 2566
เปิด 10 อันดับเหรียญ"หลวงปู่โต๊ะ"ยอดนิยม เกจิดังแห่ง วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี ที่นักสะสมของขลังวัตถุมงคล กว้านเช่าหามาเป็นเจ้าของ
ถ้าพูดถึง พระราชสังวราภิมณฑ์ (โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) หรือ "หลวงปู่โต๊ะ" แห่ง วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี เชื่อว่านักสะสมพระต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะ หลวงปู่โต๊ะ เป็นเถราจารย์ที่ผู้คนนับถืออย่างกว้างขวาง มีพระเครื่อง พระปิดตา เป็น วัตถุมงคลเอกของท่าน ด้วยวัตรอันปฏิบัติอันงดงามเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธทุกชนชั้น ท่านถึงพร้อมด้วยบุญบารมีและอิทธิบารมี พระเครื่องของท่านมีปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์เล่าขานมากมายจากเหนือจดใต้ทั่วประเทศไทย จนกลายเป็นพระหลักยอดนิยมของเมืองไทย และหลวงปู่โต๊ะเป็นภิกษุที่อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสยาวนานถึง 68 ปี
โดยประวัติของ หลวงปู่โต๊ะ นั้นท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2430 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรของนายพลอย และนางทับ รัตนคอน มีพี่น้องอยู่ร่วมกัน 2 คน ซึ่งถึงแก่กรรมก่อนหลวงหลวงปู่โต๊ะตั้งนานแล้ว ในวัยเด็ก เด็กชายโต๊ะ ได้เข้าเรียนวิชาอยู่ที่วัดเกาะแก้ว ใกล้บ้านเกิดของท่าน เมื่อมารดาถึงแก่กรรม พระภิกษุแก้ว เห็นความขยันหมั่นเพียรของเด็กชายโต๊ะ จึงได้พาเด็กชายโต๊ะ มาฝากอยู่กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้น ส่วนนายเฉื่อยก็ไม่ได้ตามมาด้วย คงอยู่ที่วัดเกาะแก้วเหมือนเดิม ท่านได้มาเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีอยู่เป็นเวลาอยู่ 4 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 17 ปี
พ.ศ. 2447 เมื่อบรรพชาแล้ว ท่านก็มาเรียนศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี ทั้งกับพระอธิการคำ และพระอาจารย์พรหม วัดประดู่ฉิมพลีอีกท่านหนึ่งด้วย จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี สามเณรโต๊ะ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ณ พัทธสีมา วัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมวิรัต (เชย) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า อินทสุวัณโณ
เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงปู่โต๊ะ ได้เรียนศึกษาปฏิบัติคันทธุระ วิปัสสนาธุระ และสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาพระอธิการคำ ได้มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้ง หลวงปู่โต๊ะ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีสืบต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456
หลวงปู่โต๊ะ ได้ออกธุดงค์จาริกไปทั่วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรมและเรียนพุทธาคม โดยฝากตัวเป็นศิษย์ครูบาอาจารย์รูปสำคัญหลายรูป เช่น หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อชุ่ม วัดราชสิทธาราม ส่วนสหธรรมิกของท่านที่มีชื่อเสียงได้แก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม และต่อจากนั้นท่านเดินทางไปธุดงค์ ยังภาคเหนือและภาคใต้ ก่อนจะกลับมายังวัดประดู่ฉิมพลี
หลวงปู่โต๊ะ ท่านได้เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา เนื่องจากว่า ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีผู้คนมานิมนต์ท่านให้ออกมาให้พร หรือ ขอความช่วยเหลือ ท่านจึงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน สุขภาพท่านจึงไม่ค่อยแข็งแรง แต่ยังพอฉันอะไรได้ แม้จะรักษาอย่างดีเท่าใด แต่สุขภาพ กายสังขารของท่านก็ไม่อาจจะทนไหว
หลวงปู่โต๊ะได้อาพาธครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 และก่อนมรณภาพได้เพียง 7 วัน ท่านลุกจากเตียงไม่ได้เลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2524 คณะลูกศิษย์ทีเป็นพยาบาล ได้มาถวายรังนกอีก แต่คราวนี้สังเกตได้ว่า แขนของท่าน บวม ท่านอยู่ได้จนกระทั่งเมื่อเวลา 9:55 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม
พระราชทานโกศโถบรรจุศพ
พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
โดยในวันนี้ ไทยนิวส์ จะพาทุกท่านไปชม 10 อันดับ เหรียญยอดนิยม หลวงปู่โต๊ะ ที่นักสะสมของขลังวัตถุมงคลห้ามพลาดเด็ดขาด
อันดับ 10
เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ครั้งที่ 1 สร้างปี 2561 เนื้อทองแดง
อันดับ 9
เหรียญพิมพ์หยดน้ำ ยอดขุนพล สร้างปี 2521 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน ,เนื้อทอง
อันดับ 8
พระนาคปรก ใบขาม หลังยันต์นะ สร้างปี 2521 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ ,เนื้อเงิน , เนื้อทองคำ
อันดับ7
เหรียญรุ่น3 (จิ๊กโก๋)พิมพ์ใหญ่ สร้างปี 2512 มีเนื้อกะไหล่ทอง
อันดับ6
เหรียญรุ่น 2 สร้างปี 2511 มีเนื้อทองแดง
อันดับ 5
เหรียญรูปไข่หลังพัดยศ สร้างปี 2518 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน
เหรียญเสมา หลังพัดยศ สร้างปี 2518 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน
อันดับ 4
เหรียญเยือนอินเดีย สร้างปี 2519 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน
อันดับ 3
เหรียญเสมาหลังยันต์ตรีนิสิงเห สร้างปี 2517 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน , เนื้อทองคำ
อันดับ 2
เหรียญพัดยศ(พิมพ์ใหญ่)สร้างปี 2516 มีเนื้อทองแดง , เนื้อนวโลหะ , เนื้อเงิน
อันดับ 1
เหรียญรุ่นแรก สร้างปี 2510 มีเนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง , เนื้อนวโลหะกะไหล่ทอง
ขอบคุณ เอ็ม หัตถ์เทพ FC
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline