- 07 ก.พ. 2567
5 อาหารต้องห้าม ในวันตรุษจีน เผลอจัดโต๊ะไหว้ - ทำกินควรระวัง ชาวจีนมีความเชื่อเกิดเรื่องไม่มงคลในชีวิตปี 2567
5 อาหารต้องห้าม ในวันตรุษจีน เผลอจัดโต๊ะไหว้ - ทำกินควรระวัง : "ตรุษจีน2567" ถือเป็นวันมงคลของชาวจีน เนื่องจากเป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งใน "ตรุษจีน" มักจะมีความเชื่อหลายๆ อย่าง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เพราะชาวจีนเชื่อว่า "วันตรุษจีน" จะเป็นวันดีที่จะได้เริ่มต้นใหม่ ดังนั้นจะทำอะไรต้องทำแต่สิ่งที่เป็นมงคล
"ตรุษจีนปีนี้" ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งในวันนั้นชาวจีนก็มีความเชื่อในเรื่องของต้องห้าม ทั้งอาหารการกิน การกระทำ ความคิด และ สิ่งต่างๆ ที่จะต้องทำในวันตรุษจีน ในวันนี้ ทีมข่าวไทยนิวส์ ได้รวบข้อห้าม ที่ต้องห้ามทำเด็ดขาดในวันตรุษจีน โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน
อาหารที่ห้ามกินในวันตรุษจีน
โจ๊ก หรือ ข้าวต้ม
เหตุผลง่ายๆ ข้อแรกคือ ของการห้ามกินโจ๊กหรือข้าวต้มในวันตรุษจีนเป็นเพราะว่าอาหารเหล่านี้เป็นมื้ออาหารของคนจน เพราะราคาถูก หาซื้อง่าย และทำง่าย จึงเชื่อกันว่า การกินโจ๊กในวันตรุษจีน เปรียบเสมือนการดึงดูดความยากจนมาสู่ตัวเอง ถ้าอยากจะรวยก็ต้องถือเคล็ดห้ามกินอาหารคนจน คนจีนบางส่วนจึงไม่กินโจ๊กในมื้อแรกของวันตรุษจีน แล้วเลือกกินอาหารหรูหราแทน
เหตุผลข้อที่ 2 คือโจ๊กมีลักษณะคล้ายข้าวยาจก เนื่องจาก โจ๊กมีลักษณะเป็นอาหารเหลว คล้ายกับข้าวยาจก ที่คนสมัยก่อนนิยมแจกจ่ายให้ขอทาน จึงเชื่อกันว่า การกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ชีวิตตกต่ำ ยากจนเหมือนยาจก
เหตุผลข้อที่ 3 โจ๊กชื่ออาหารไม่เป็นมงคล เพราะคำว่า โจ๊ก ในภาษาจีนแต้จิ๋ว ออกเสียงคล้ายกับคำว่า "เจ๊ง" ซึ่งหมายถึง "ล้มละลาย" จึงเชื่อกันว่า การกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ธุรกิจการค้าไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ภาษาไทยเอง ก็มีสำนวนที่เกี่ยวกับโจ๊กในความหมายไม่ดี เช่น "เละเป็นโจ๊ก" เช่นเดียวกัน
เหตุผลข้อที่ 4 โจ๊กเป็นอาหารจืด เพราะโจ๊กเป็นอาหารที่มีรสอ่อน จืดชืด จึงเชื่อกันว่า การกินโจ๊กในวันตรุษจีน จะทำให้ชีวิตตลอดปี จืดจาง ไม่มีสีสัน ไม่มีความรุ่งโรจน์
เหตุผลข้อที่ 5 โจ๊กเป็นอาหารที่ไม่มีสีสัน เนื่องจากในวันตรุษจีน ชาวจีนนิยมกินอาหารที่มีสีสันสดใส เพื่อเป็นสิริมงคล จึงเชื่อกันว่า การกินโจ๊ก ซึ่งเป็นอาหารที่มีสีขาว จะทำให้ชีวิตจืดชืด ไร้สีสัน
อาหารต้องห้ามถัดมาคือ เนื้อสัตว์
การงดกินเนื้อสัตว์ของคนจีนเรียกว่าการกินเจ ซึ่งประเทศไทยก็มีการรับวัฒนธรรมกินเจมาจากจีนเช่นกัน การกินเจในวันตรุษจีนเป็นการอิงตามความเชื่อที่ว่าในช่วงวันตรุษจีนเทพเจ้าที่ลงมาให้พรเป็นเทพเจ้าที่กินเจทั้งหมด เช่น เทพไฉ่ซิงเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งโชคลาภของจีน
แน่นอนว่าในวันตรุษจีน ตามความเชื่อของหลายๆ คนจะไม่นิยมกิน อาหารสีขาว
ความเชื่อนี้มีอยู่ในบางบ้านของชาวจีน เขื่อว่าสีขาวเป็นสีของความเศร้าโศก ถูกใช้ในงานอวมงคลของจีน อาหารที่มีสีขาว เช่น เต้าหู้ขาว ชีสขาว ไข่ขาว จึงเป็นอาหารที่คนมักจะหลีกเลี่ยง แล้วเลือกินอาหารสีมงคลแทน เช่น สีแดง
นอกจากนี้ยังห้ามกินอาหารความหมายไม่ดี
การไม่กินอาหารความหมายไม่ดีถือเป็นความเชื่อที่มีความใกล้เคียงกับความเชื่อไทย เช่นคนไทยไม่นิยมกินสละ หรือระกำ เพราะความหมายใกล้กับสิ่งที่ไม่เป็นมงคล คนจีนก็มีอาหารที่หลีกเลี่ยงด้วยเหตุผลเดียวกัน เช่น ไม่กินหมึกผัด เพราะเมื่อออกเสียงเมนูนี้เป็นภาษาจีนจะหมายถึงตกงาน
สิ่งสุดท้ายที่ห้ามกินคือ สัตว์ที่เคลื่อนที่ไปข้างหลัง
อาหารที่ห้ามกินในหมวดหมู่เคลื่อนที่ไปข้างหลังนี้เป็นความเชื่อที่หาได้ยากแล้วในปัจจุบัน แต่คนจีนบางกลุ่มมีความเชื่อว่าสัตว์ที่สามารถเคลื่อนไหวถอยหลังได้ เช่น กุ้งล็อบสเตอร์ที่มักจะว่ายน้ำไปทางด้านหลัง แทนความหมายว่าจะยึดติดอยู่กับอดีตและไม่เดินหน้า
นอกจากสัตว์ที่เคลื่อนไหวถอยหลังแล้ว บางแหล่งมีการรวมปูที่เดินด้วยขาทั้งซ้ายขวาแทนความหมายของความโลเล ไก่ที่มักจะเกาหลัง แทนความพะวงเกี่ยวกับเรื่องในอดีต สัตว์เหล่านี้จึงเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ควรกินในช่วงวันตรุษจีน
อย่างไรก็ดี อาหารการกินของคนจีนยึดโยงกับความเชื่อเป็นอย่างมาก ปัจจุบันความเชื่อหลายอย่างอาจจะผ่อนคลายลง แต่ก็มีบางส่วนที่ยึดถือตามหลักและเลือกกินแต่อาหารที่ให้เคล็ดดีๆ เท่านั้น