หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

เผยคำทำนาย หลวงปู่ศิลาเตือนภัยน้ำท่วมใหญ่ คำทำนายนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือ? มาไขปริศนาไปพร้อมกัน กับการวิเคราะห์คำทำนายของหลวงปู่ศิลาในมุมมองทางวิทยาศาสตร์

หลวงปู่ศิลา น้ำท่วม อย่าตื่นตระหนก! มาวิเคราะห์ คำทำนายน้ำท่วมใหญ่ ของหลวงปู่ศิลาไปพร้อมกัน เพื่อให้เราได้เข้าใจสถานการณ์และเตรียมตัวรับมือได้อย่างถูกต้อง

 

หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

หลวงปู่ศิลาทำนายน้ำท่วมใหญ่ กรุงเทพฯ จมบาดาลจริงหรือ? คำทำนายของท่านที่ว่า กรุงเทพมหานครจะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบประวัติศาสตร์ในปี 2573 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสังคม มาวิเคราะห์กันว่าคำทำนายนี้มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และเราควรเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์อย่างไร

 

หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน


หากคำพูดนี้มิได้หลุดจากปากของ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท พระเกจิสายกรรมฐานที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการมีญานทิพย์หยั่งรู้ล่วงหน้า สามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว ผู้คนก็คงจะไม่ออกอาการเหลียวซ้ายแลขวาค้นหาข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ว่า


คำทำนายของหลวงปู่ศิลาจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และจะแม่นยำเหมือนที่เคยทำนายเรื่องอื่น ๆ อย่างถูกต้องมาแล้วหรือไม่


โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่วิหารต่อแดนสวรรค์ ภายในวัดถ้ำแก้วภาวนา ตำบลหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกเหรียญมหาบารมีพระศรีอริย วาระที่ 2 ซึ่งในวันนั้นหลวงปู่ศิลาก็ได้กล่าวเตือนญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ภายในงาน จนเป็นที่ฮือฮา


ด้วยที่ หลวงปู่ศิลาเตือนให้ทุกคนระวัง “อุทกภัยครั้งใหญ่” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2573 ว่ากรุงเทพมหานครจะเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบประวัติศาสตร์ จนทุกคนต้องหนีภัยแห่อพยพไปตั้งหลักอยู่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และในปีนั้นเอง ที่ดินแถบโคราชก็จะมีราคาแพงเท่าตัว ขนาดที่ว่าขายกันวาละหลักล้านอีกด้วย


แม้ในวันที่หลวงปู่กล่าวเตือนผู้คนจะไม่แสดงอาการตื่นตระหนกมากนัก แต่ก็มีการแชร์คลิปดังกล่าวอย่างรวดเร็ว จนสื่อหลายสำนักนำไปเป็นประเด็นข่าว

 

หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน


อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปก่อนหน้านี้ในปี 2565 และ 2566 ได้เคยมีผู้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้แล้วคนแรกคือ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต


โดย ดร.เสรี ให้ทัศนะว่า จากการติดตาม และศึกษาข้อมูลงานวิจัยในระดับโลกที่มีการศึกษากันนั้น ชี้ให้เห็นว่า กทม.และปริมณฑลมีความเสี่ยงสูงมากที่จะจมใต้น้ำ 100% เพราะปริมาณน้ำฝน น้ำเหนือหลากที่จะเกิดขึ้นในหน้าฝน ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงถาวร ซึ่งใน 30 ปีข้างหน้าจะสูงขึ้นอีก 30-40 เซนติเมตร


จึงเป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะจากงานวิจัยพบว่า กรุงเทพฯ อยู่ในลำดับ 7 ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมชายฝั่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง


ทั้งนี้ ดร.เสรี ได้อ้างอิงถึงข้อมูล 3 งานวิจัยที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยกล่าวว่า


“ผมเป็นคนไทยคนเดียวที่ทำงานกับคณะทำงาน กับ IPPC คือ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate ) เป็นเวลา 10 ปีแล้ว


ผมจึงเห็นข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ 3 งานวิจัยมันชัดมากๆ ว่าน้ำทะเลหนุนสูง ปี 2030 พบว่า ชายฝั่งทะเลทั้งหลายจะหายไป ไม่ใช่พูดกันแบบลอยๆ ผมจึงอยากกระตุ้นให้รัฐบาลได้เตรียมรับมือให้พร้อมที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหา”


ส่วนอีกคนหนึ่งที่ออกมาให้ข้อคิดเห็นในเรื่องนี้คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไตรเทพ วิชย์โกวิทเทน อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (SCI-TU) เปิดบทวิเคราะห์ผลกระทบจากภาวะโลกรวน (Climate Change) ว่า


กรุงเทพมหานครเป็นหนึ่งในมหานครที่มีความเสี่ยงจมบาดาลภายใน 50 ปี ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจาก 3 ปัจจัย คือ

 

1. การทรุดตัวของชั้นดินเฉลี่ย 2-3 เซนติเมตรต่อปี

2. น้ำทะเลหนุน

3. การสูญเสียน้ำใต้ดินจากการใช้น้ำบาดาลในอดีต

 

ล่าสุด ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นายกสภาวิศวกร นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย

 

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาแสดงทรรศนะในเรื่องเกี่ยวกับการจมบาดาลของกรุงเทพมหานครว่า

 

มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 15 ปีนับจากนี้ ทั้งนี้ก็ด้วยลักษณะทาง กายภาพของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีโอกาสได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างเช่น สมุทรปราการ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ หรือป้อมพระจุล จากอดีตที่ผ่านมาเมื่อน้ำทะเลหนุนจะไหลเข้าท่วมถนนที่อยู่ริมแม่น้ำ แต่ปัจจุบันเมื่อน้ำทะเลหนุน ระดับน้ำ จะแผ่ขยายเข้าถึงเขตเมืองแล้ว 

 

หลวงปู่ศิลา ทำนายน้ำท่วม ความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

ขอขอบคุณ : หลวงปู่ศิลา ,  รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ , ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์