"กรธ." พิจารณาร่างรธน. 6 หมวด 78 มาตรา ผ่านฉลุย !! - ลุยถกหมวดรัฐสภาต่อ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"กรธ." ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญหมวด 6 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐครบทุกมาตราแล้ว โดยเป็นการวางกรอบเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบริหารประเทศแต่ก็ต้องคำนึงถึงความสามารถทางการคลังด้วย พร้อมระบุบทบัญญัติลงไปด้วย - วันนี้เตรียมประชุมในหมวดของรัฐสภาต่อ !!

 


วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่โรงแรมดิอิมพีเรียล เลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นอกสถานที่ เป็นวันที่ 3 โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. เป็นประธานในที่ประชุมฯ โดยเริ่มการประชุมเวลา 9.00 น. โดยในขณะนี้ ทาง กรธ. ได้พิจารณาผ่านไปแล้วทั้งหมด 6 หมวด 78 มาตรา ซึ่งในวันนี้ จะเริ่มการพิจารณาในหมวดของรัฐสภา
         

 

โดยนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ. แถลงถึงความคืบหน้าในการประชุมว่า การประชุมเมื่อวานนี้ (12 มกราคม) ที่ประชุมได้พิจารณาเสร็จสิ้นในหมวด 6 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ครบทุกมาตราแล้ว ซึ่งในหมวดนี้ เป็นเนื้อหาที่วางกรอบเป็นแนวทางให้รัฐในการบริหารประเทศ แต่รัฐก็จะต้องคำนึงถึงความสามารถทางการคลัง เงื่อนไข และเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยมีบทบัญญัติที่สำคัญคือ กำหนดให้รัฐพึงปลูกฝังให้ประชาชนยึดมั่นในเกียรติภูมิ อุดมการณ์ และผลประโยชน์ของชาติ มีจิตสำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและสังคมส่วนรวม ส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ให้ดำรงชีวิตในสังคมตามวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตดั้งเดิมตามความสมัครใจ จัดให้มีการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่หรือวงโคจรดังกล่าว ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ความมั่นคงของรัฐ และประโยชน์สาธารณะ และต้องป้องกันมิให้แสวงหาประโยชน์จากผู้ใช้บริการโดยมิชอบ ที่มีจุดเชื่อมกับบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้รัฐพึงมีมาตรการหรือกลไกที่ทำให้เกษตรกรประกอบเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สืบเนื่องจากปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบเศรษฐกิจให้ประชาชนได้มีโอกาสได้รับประโยชน์จากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และยั่งยืน และให้รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น และพึงยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ โดยหลักการของมาตรานี้เพื่อไม่ให้กฎหมายกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนน้อยที่สุด และลดภาระของภาครัฐ แต่ก็มีมุมมองที่อาจนำเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อสกัดกั้นร่างกฎหมาย โดยอ้างหลักการพิจารณาความจำเป็นของร่างกฎหมาย ซึ่ง กรธ. จะนำประเด็นนี้ไปหารือในที่ประชุมต่อไป
         

 

ส่วนการพิจารณาในหมวดรัฐสภานั้น นายชาติชายระบุว่า จะมีการพิจารณาในหมวดรัฐสภาจะประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา บทที่ใช้แก่สภาทั้งสอง การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งจะครอบคุลมถึงการกำหนดให้การเลือกตั้งสส.เป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ ให้ส.ส.จำนวน 500 คนแบ่งเป็น สส.ระบบแบ่งเขต 350 คน และสส.ระบบบัญชีรายชื่อ 150 คน โดยให้เลือกตั้งด้วยบัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว จากเดิมที่ใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในหลักการ กรธ.จะเห็นชอบร่วมกันแล้วแต่ในเรื่องรายละเอียดออย่าง คุณสมบัติและลักษณะต้องของผู้สมัคร ส.ส.จะเป็นเรื่องที่ กรธ.พิจารณาทบทวน เพิ่มเติมเงื่อนไขอีกครั้ง