- 13 ม.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th
"ทบ." จับมือชลประทาน ร่วมขุดแก้มลิงกักเก็บน้ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำระหว่างประเทศใน 5 จังหวัดภาคอีสาน ตามนโยบายแก้แล้งป้องอุทกภัยของรัฐ โดย "ผบ.ทบ."จะลงพื้นที่ตรวจแก้มลิงที่ จ.มุกดาหาร ใน 14 ม.ค.นี้
วันนี้(13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่รัฐบาลเดินหน้าในนโยบายแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน ล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติให้กรมชลประทานดำเนินโครงการ“แก้มลิงกักเก็บน้ำก่อนไหลสู่แม่น้ำระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๕๘” ในพื้นที่ ๕ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( นครพนม, หนองคาย, เลย, บึงกาฬ และ มุกดาหาร) จำนวน ๓๐ โครงการ มีระยะเวลาในการดำเนินการห้วง พ.ย.๕๘ – มี.ค.๕๙ โดยเป็นการขุดลอกและขยายแหล่งน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ในลำน้ำหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติภายในประเทศก่อนไหลลงสู่แม่น้ำระหว่างประเทศ แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความเร่งด่วนและต้องทันต่อสถานการณ์น้ำในปีนี้ กรมชลประทานจึงได้ขอความร่วมมือให้กองทัพบกสนับสนุนการขุดลอกแก้มลิงใน ๒๔ โครงการ
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ ๒ และกรมการทหารช่างใช้ศักยภาพทั้งกำลังพลและเครื่องมือให้การสนับสนุนกรมชลประทาน ดำเนินโครงการ “แก้มลิงกักเก็บน้ำก่อนไหลสู่แม่น้ำระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๕๘” ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ควบคู่ไปกับการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลแหล่งน้ำตามธรรมชาติและที่ขุดเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่เพื่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของชุมชน พร้อมทั้งการตระหนักรู้ในสถานการณ์น้ำของประเทศ โดยในการขุดลอกแก้มลิงในครั้งนี้ กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ ๒ รับผิดชอบ ๑๑ โครงการ ใน จ.นครพนม และ มุกดาหาร สำหรับ กรมการทหารช่างรับผิดชอบ ๑๓ โครงการ ใน จ. หนองคาย, เลย และ บึงกาฬ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการแล้วตั้งแต่เดือน พ.ย.๕๘ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขุดลอกตะกอนดิน และขยายแหล่งน้ำใน ๑๕ พื้นที่ มีความคืบหน้าในภาพรวมแล้วร้อยละ ๒๗ และขุดลอกเสร็จแล้ว ๑ โครงการ
โดยในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้บัญชาการทหารบก
มีกำหนดเดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าของการดำเนินโครงการฯ พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ ณ โครงการแก้มลิงบ้านชะโนด ต.ชะโนด อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ซึ่งกองทัพภาคที่ ๒ โดย กองพันทหารช่างที่ ๒๐๒ เป็นหน่วยปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม โครงการ “การขุดลอกแก้มลิงกักเก็บน้ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำระหว่างประเทศ” เมื่อดำเนินการเรียบร้อยตามแผนงานที่กำหนด จะเพิ่มความจุในการเก็บกักน้ำได้ถึง ๑๒.๗๗ ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ ๑๔,๖๘๐ ไร่ และประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์ไม่ต่ำกว่า ๖,๐๓๐ ครัวเรือน ซึ่งจะเป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐที่ต้องการเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง ป้องกันปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
