- 04 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th
หลังจากที่มีกระแสถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล เกี่ยวกับประเด็นเรื่องพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ โดยนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ภาพพร้อมเล่าเหตุการณ์การกระทบกระทั่งระหว่างอาจารย์กับนิสิต ขณะกำลังทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับอ้างด้วยว่ามีอาจารย์เข้าไปล็อกคอนิสิต ซึ่งตอนนี้ด้านอาจารย์เครียดหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล พร้อมขอโทษนิสิตแทนอาจารย์ด้วยที่ทำเกินกว่าเหตุ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หรือถึงคราวเสื่อมจริงๆ!! อดีตที่ปรึกษาสภานิสิตจุฬาฯย้ำเหตุชุลมุนตรงข้ามคำเล่า "เนติวิทย์" จวกเละสภาฯยุคนี้ตลบตะแลงไม่น่าเชื่อเป็นผู้แทนนิสิต
ล่าสุดดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ที่สนับสนุนแนวคิดของนายเนติวิทย์มาโดยตลอดนั้น ก็ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ว่า "ราโชมอน ตอน "ผมคิดว่า เนเน่ผิด จุฬาฯ พลาด (และอิมเมจรอด)" .. ยาวนะเรื่องนี้ มีเสียงถามมาหลายคนว่า ที่ผมโพสต์ย่อๆ ไปก่อนนี้ มีเหตุผลว่าอะไรบ้าง โพสต์นี้จะอธิบายรายละเอียด ตามที่ผมปะติดปะต่อข้อมูลจากสารพัด เท่าที่หาอ่านได้เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ และมันก็ "ราโชมอน" มากๆ คือ แต่ละคน พูดจากคนละมุมเลย ซึ่งมันก็ขึ้นกับคติและอคติของแต่ละคนด้วย เลยขอประมวลมาดังต่อไปนี้ (ถ้ามีผิดข้อไหนชัวร์ๆ ก็บอกกันได้นะ)
- ปีนี้การจัดงานถวายสัตย์ ชัดเจนว่ามีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อน และค่อนข้างไปในแนวทางที่เนเน่ (เนติวิทย์) เรียกร้อง นั่นคือ ไม่ได้มีการหมอบกราบลงไปกับพื้นแล้ว (เน้น) แต่เป็นการถวายบังคมเท่านั้น คือ นั่งคุกเข่าบนส้นเท้า พนมมือ และยกมือขึ้นจรดหน้าผาก
- กิจกรรมนี้ ไม่ได้เป็นการบังคับให้นิสิตปี 1 ทุกคนต้องเข้าแต่อย่างไร สามารถเลือกที่จะไม่เข้าก็ได้ หรือถ้าอยากจะเข้าร่วมโดยอยู่ในเต้นท์ด้านข้างที่เสริมเข้ามาทั้ง 2 ข้างก็ทำได้ (เหมาะกับคนที่นับถือบางศาสนา ที่ไม่สะดวกใจในการทำพิธีเช่นนี้) ในมุมของทางจุฬาฯ บอกด้วยว่า จะมีจัดรอบต่างหากให้กับคนที่อยากทำความเคารพด้วยการถวายคำนับ (ยืน) แต่ผมไม่คอนเฟิร์มเพราะไม่มีขั้นตอนนี้เกิดขึ้น
- ไทม์ไลน์ของเรื่องนี้ ดูจากจังหวะที่ฝนจะตก นั่นคือ ตามกำหนดการเดิมจะต้องมีการซ้อมก่อน 3 รอบ ถึงจะทำพิธีจริง แต่เนื่องจากบรรยากาศฝนตั้งเค้ามาแต่วัน ทำให้พิธีถูกกระชับเข้ามา และดำเนินพิธีจริงอย่างรวดเร็ว "ก่อนฝนจะตกหนัก"
- ดูจากรูปประกอบ จะเห็นได้ชัดว่านิสิตปี 1 ได้ทำการถวายบังคมเสร็จตั้งแต่ฝนยังตกปรอยๆ แค่นั้น ยังไม่ใช่ช่วงฝนกระหน่ำหลังจากนั้น จะเห็นด้วยว่า มีการดำเนินกิจกรรมไปตามแผนฝนตกที่วางไว้ (ดูข้อสังเกตเรื่องแผนฝนตกนี้ ด้านล่าง) คือ ถ้าฝนปรอย ก็ให้ดำเนินต่อไป ถ้าฝนเริ่มลงเม็ด ให้แจกเสื้อฝน ถ้าฝนตกเม็ดใหญ่แล้ว ให้น้องใส่เสื้อฝน
- เสื้อฝน มีการแจกจ่ายได้ค่อนข้างทั่ว แม้จะไม่ครบทุกคนก็ตาม ซึ่งเป็นเสื้อฝนจริงๆ ไม่ใช่แค่แผ่นพลาสติกอะไร ขณะที่คณาจารย์ รวมถึงรุ่นพี่ด้านข้างนั้น แทบจะไม่ได้มีใครเตรียมร่มอะไรไป ส่วนใหญ่จะเปียกฝนกันทั่วหน้า
- จังหวะที่เนเน่และพวก ลุกขึ้นจากที่ของตน (เข้าร่วมอย่างเป็นทางการในฐานะสภานิสิตจุฬาฯ) เป็นช่วงหลังจากสัญญาณฆ้องครั้งสุดท้ายแล้ว หรือพูดง่ายๆ คือเสร็จพิธีแล้ว
- แต่ตามแผนเดิมของเนเน่และพวกนั้น ตั้งใจจะลุกออกตั้งแต่ตอนเสร็จการซ้อมรอบที่ 3 (ซึ่งก็คือ ระหว่างพิธีการทั้งหมด) เปรียบเทียบง่ายๆ ว่าคล้ายกับที่ลุกออกในปีที่แล้ว (แต่ปีก่อนนั้น เป็นในนามนิสิตปี 1 มาร่วมงาน ไม่ใช่ในนามตัวแทนองค์กรสำคัญเช่นนี้) แต่เนื่องจากกำหนดการเปลี่ยนหมด ทางกลุ่มจึงเปลี่ยนเป็นนัดกันที่จะลุกออกตอนสัญญาณฆ้องสุดท้าย ดังที่เห็น
- เมื่อเนเน่และพวกลุกออก แทนที่จะเดินออกด้านข้าง ไปยังเต็นท์ด้านข้างริมขอบสนามเพื่อกลับบ้านหรือกลับตึกจุลฯ แต่กลับเดินตัดเข้ามาด้านหน้าของพิธี ไปยังพระรูปสองรัชกาล ซึ่งรวมถึงคณาจารย์ผู้บริหารและสื่อมวลชนยืนอยู่ด้านนั้น อันนี้จึงชัดเจนว่า ต้องการประท้วง หรือพูดง่ายๆ ว่า ป่วนการจัดงาน และต้องการให้เป็นข่าว
- ตรงนี้ผมขอเสนอความเห็นว่า "เนเน่ผิด ที่เล่นเกมส์ป่วนงานจุฬาฯ"
และในกรณีที่มีภาภอาจารย์ล็อคคอนิสิตออกมานั้น แน่นอนว่าที่ผมบอกว่าจุฬาฯ พลาดนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อาจารย์ท่านนั้น "ผิด" จริงๆ ที่ทำกริยาและพูดไม่สุภาพเช่นนั้น แม้ว่าจริงๆ ผมจะค่อนข้างคุ้นเคยกับท่าน แต่ก็ไม่คิดว่ามหาวิทยาลัยควรจะเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ แม้ว่าท่านจะเจตนาดีต่อจุฬาฯ ก็ตาม แต่สำหรับใครที่คิดว่าอาจารย์ท่านสำออย แกล้งเข้าโรงพยาบาล อันนี้ขอบอกเลยว่า ท่านมีโรคประจำตัวเช่นนี้ คือ เกิดอาการ hyperventilation เมื่อเครียด
มานานมากตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แม้จะดูตัวใหญ่ก็ตาม แต่เวลาเป็นที ก็อันตรายมากนะ
"สำหรับเนเน่ แม้ว่าใครๆ ก็รู้ว่าผมเป็นฝ่ายสนับสนุนเค้า แต่งานนี้ (รวมทั้งงานปีก่อนด้วย) ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเรานะ ...และที่เราต้องคำนึงให้มาก คือ ปีนี้ เรามีตำแหน่งอันทรงเกียรติคือประธานสภานิสิตอยู่ด้วย จะทำอะไร ควรคิดถึงชื่อเสียงระยะยาวขององค์กรด้วย สิ่งที่ผมสงสัยคือ สิ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้นเป็นมติของสภาฯ มาก่อนหรือเปล่า (เช่น มีมติว่า ถ้างานไม่ออกมาดังใจ จะลุกออก) ถ้าไม่เคยมีมติ และถ้าผมเป็นสมาชิกสภาฯ อยู่ ผมจะขอใช้สิทธิตั้งกระทู้ถาม ไปจนถึงขอตั้งอนุกรรมการสอบเรื่องนี้ และถ้าพบว่าทำให้สภาฯเสียหาย ผมจะใช้สิทธิขอถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ ด้วย"
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Jessada Denduangboripant