- 19 ต.ค. 2560
มาแรงแซงทางโค้ง กระแส "เจ๊แดง" ส่ง "ชัชชาติ" ท้าชิง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ที่ได้แรงหนุน "คุณหญิงพจมาน" งานนี้ทักษิณจะเลือกใคร???
จากเมื่อวันที่ 28 ก.ย. มีประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ โดยมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร์ชาติด้านต่างๆ รวม 6 คณะ ซึ่ง 1 ในคณะกรรมการที่เป็นที่ฮือฮาที่สุดก็คงเป็นการที่มีชื่อของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ยุคสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ทำงานติดตามนายทักษิณ ชินวัตร มาตลอด ติดโผคณะกรรมการด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ขอบเขต การค้า การลงทุน การผลิต การบริการ ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจชุมชน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การพัฒนาพื้นที่พิเศษ โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ การอํานวยความสะดวกในทางธุรกิจ ทั้งนี้ชัชชาติยังเคยอยู่ในห้องประชุมกองทัพบกในวันที่วันพล.อ.ประยุทธ์ทำรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.57
จากนั้นไม่นาน ชัชชาติ ได้ฉะกลับโดยได้ยกคำพูดของ Michael Porter กูรูด้านกลยุทธ์ที่พูดว่า "The essence of strategy is choosing what not to do." "แก่นแท้ของกลยุทธ์ คือ การเลือกว่าอะไรไม่ควรทำ" รายละเอียดดังนี้ ตามที่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ผมเป็นกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันเมื่อวันที่ 28 กันยายนนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อนครับ ผมทราบเรื่องเมื่อตอนบ่ายวันที่ 27 แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ขอเวลาดูรายละเอียดก่อน ช่วงกลางคืนก็มีรายชื่อในสื่อแล้ว แต่ผมเชื่อว่าทุกท่านมีเจตนาดี คงเป็นเรื่องเวลาที่กระชั้น และเท่าที่ทราบ กรรมการบางท่านก็เป็นแบบนี้
การจัดทำยุทธศาสตร์ชาตินั้น เป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน มีระยะเวลายาวไม่น้อยกว่า 20 ปี และ หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยมีหน้าที่ดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ นอกจากนี้ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติยังมีหน้าที่ตามมาตรา 10 ในการจัดทำแผนแม่บทให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนด และ มาตรา 26 ในการพิจารณาว่าการดำเนินการของหน่วยงานใดไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งมีหน้าที่ในการติดตามแก้ไขปรับปรุงด้วย ซึ่งเป็นภาระงานสำคัญที่ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทอย่างมาก
ตัวผมเอง ไม่ได้มีความเข้าใจในแนวคิดและหลักการของยุทธศาสตร์ชาติอย่างถ่องแท้ นอกจากนี้ยังติดภาระงานประจำที่เป็นพนักงานเต็มเวลาของบริษัทมหาชนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาระด้านครอบครัว จึงไม่สามารถที่จะทำหน้าที่กรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างเต็มกำลัง ผมจึงขอไม่รับตำแหน่งกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ โดยจะไปยื่นหนังสือในวันจันทร์ ตอนแรกจะไปตั้งแต่วันศุกร์แต่ทำเอกสารไม่ทันครับ
Michael Porter กูรูด้านกลยุทธ์พูดไว้ว่า "The essence of strategy is choosing what not to do." "แก่นแท้ของกลยุทธ์ คือ การเลือกว่าอะไรไม่ควรทำ"
สิ่งที่เรารู้ว่าจะทำได้ไม่ดี ก็ควรเลือกที่จะไม่ทำเพื่อไม่ให้เสียเวลาทั้งของคนอื่นและตัวเราครับ
เป็นไปได้หรือไม่การที่ชัชชาติปฏิเสธไม่รับตำแหน่งกรรมการยุทธศาสตร์นั้นเนื่องมาจากชัชชาตินั้นอาจจะขึ้นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สู้กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ โดยที่ชัชชาตินั้นได้รับแรงสนับสนุนจากเจ๊แดง เยาวภา วงค์สวัสดิ์ เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบเนื่องจากได้ขึ้นรถที่มีชื่อตัวเองติดอยู่ปราศรัยชวนประชาชนร่วมถวายดอกดาวเรือง เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ แด่ "ในหลวง ร. 9" จากข่าวนี้แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเผยว่า ข่าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของคุณหญิงสุดารัตน์ อย่างไรก็ตามคุณหญิงสุดารัตน์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อยู่ ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรในแง่ลบ อีกทั้งเจ๊แดงยังพูดอยู่เสมอว่า ผู้นำพรรคไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์
สำหรับ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นั้นเป็นบุตรของพลตำรวจเอกเสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับจิตต์จรุง (สกุลเดิม: กุลละวณิชย์) มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา สองคนคือ
1. ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ - อาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. รศ. นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธุ์ - รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ทัวร์-พี่ฝาแฝด)
ชัชชาติ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยม จากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สำเร็จปริญญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโครงสร้าง จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา ด้วยทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2530
เคยทำงานเป็นวิศวกรโครงสร้างในบริษัทเอกชน ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 ได้เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งทางวิชาการเป็นรองศาสตราจารย์ และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายจัดการทรัพย์สิน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 นอกจากนั้นยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมการในรัฐวิสาหกิจหลายแหล่ง อาทิ บริษัทขนส่ง จำกัด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
ในฐานะนักวิชาการ ได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานและให้คำปรึกษาแก่กระทรวงคมนาคมในสมัยรัฐบาลทักษิณ 2 และรัฐบาลสมัคร โดยที่ไม่ได้มีตำแหน่งใด ๆ จนกระทั่ง พ.ศ. 2555 เขาได้รับการทาบทามทางโทรศัพท์ จากอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แม้ทางมารดาจะไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ตกลงเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 จากการที่เขาเข้ามารับงานทางการเมืองเป็นครั้งแรก ทำให้ในช่วงแรกในตำแหน่งรัฐมนตรี เขากลายเป็นรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จักมากที่สุด และจากการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อมา เขาก็ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555
ในฐานะรัฐมนตรีคมนาคม(ขณะนั้น)ถือเป็นบุคคลระดับหัวกะทิของรัฐบาลในด้านการวางยุทธศาสตร์ของประเทศ เขาได้รับการกล่าวถึงในฐานะรัฐมนตรี "ดูโอเศรษฐกิจ" ของรัฐบาลคู่กับกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และ "ดูโอระบบราง" คู่กับประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟฯ (ขณะนั้น) ที่นโยบายของ รศ.ชัชชาติ ให้ความสำคัญกับการขนส่งระบบรางเป็นพิเศษ ซึ่งโครงการในระบบรางสำคัญที่เดินหน้าอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาการเป็นรัฐมนตรีของเขา อาทิ รถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย โครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)
วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ 2557 รศ.ชัชชาติเป็นหนึ่งในตัวแทนฝ่ายรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมกับบรรดาแกนนำและตัวแทนฝ่ายต่างๆเพื่อหาทางออกประเทศ ที่จัดขึ้นโดยกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.)
ด้านความนิยม
ชัชชาติ ทำตัวเป็นรัฐมนตรีติดดิน อาทิ ซ้อนจักรยานยนต์รับจ้างโหนรถเมล์ นั่งรถสองแถว โดยสารรถไฟ ออกตรวจตราราชการในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงการลงพื้นที่เพื่อตรวจปัญหาด้วยตนเอง หลายครั้งที่เขาไปตรวจงานตามองค์กรของรัฐโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สำหรับในโลกออนไลน์ ความนิยมได้เริ่มขึ้นมาจากรูปภาพหนึ่งที่ รศ.ชัชชาติ เข้าไปทำบุญใส่บาตรภายในวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีลักษณะสวมเสื้อแขนกุด หิ้วถุงอาหาร และเดินด้วยเท้าเปล่า หลังจากภาพนี้ เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต มีผู้คนตัดต่อภาพล้อเลียน รวมถึงเลียนแบบท่าทางในรูปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และได้รับการกล่าวขนานนามว่าเป็น"รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" จนกระทั่งมีแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับ รศ.ชัชชาติ โดยเฉพาะ