อึ้ง? แกะสัมพันธ์"เปรมชัย-พรรคใหญ่" กวาดงานใหญ่มาแล้วทั่วปท. ก่อนหัวทิ่มที่ "โครงการน้ำ 3.5 แสนล้านยุคหญิงปู" เหตุขัดรธน.-ไม่เห็นหัวชาวบ้าน

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


ข่าวการจับ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กรณีลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี ดูจะสร้างความสะเทือนใจให้กับวงการอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็สั่นสะเทือนวงการข่าวไปในเวลาเดียวกัน กระทั่งทำให้ต่อมาตัวเขาเองก็ถูกขุดคุ้ยประวัติออกมายาวเหยียด

 

และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า "ในสังคมอุปถัมภ์อย่างสังคมไทย" นั้น นายห้างบริษัทใหญ่ ๆ ล้วนแต่สัมพันธ์แน่นกับนักการเมืองทั้งสิ้น...กรณีนายเปรมชัยก็เช่นกัน....เขาสัมพันธ์แน่นกับผู้ครองอำนาจทางการเมืองพรรคหนึ่ง...ชนิดกวาดงานใหญ่มาแล้วทั้วประเทศ


 

ข้อมูลระบุว่า นายเปรมชัย จบการศึกษาด้านวิศวกรรมเหมืองแร่ และจบปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จากสหรัฐอเมริกา และเริ่มทำงานที่ "อิตาเลียนไทย" ด้วยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปีด้วยซ้ำ


จากนั้นอิตาเลียนไทยของเปรมชัย ก็ทะยานขึ้นยักษ์ใหญ่วงการก่อสร้างของเมืองไทย ซึ่งกวาดงานใหญ่ไปทั้วประเทศ ๘ณะเดียวกันก็ตกเป็นข่าวใหญ่อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่ถูกศาลปกครองกลางสั่งชะลอโครงการบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านเมื่อปี 2556 ในยุคหญิงปู เพราะส่อว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ คือไม่ยอมเปิดรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนอย่างทั่วถึงตามที่กฎหมายบัญญัติ ขณะที่ภาคประชาชนต่างก็ยินดีในข่าวการระงับโครงการฯ ที่ไร้งานวิชาการรองรับในครั้งนั้น

 

อีกทั้ง ต่อมาทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  หรือ ทาง คสช. ได้เรียกเปรมชัยเข้าพบเพื่อพูดคุยเรื่องนี้มาแล้วในปี 2557 การถูกเรียกพบในครั้งนั้น ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะ เพราะเขาถูกมองว่าเป็นท่อน้ำเลี้ยงของพรรคเพื่อไทยในอดีต เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทอิตาเลียนไทย มีชื่อเป็นผู้รับเหมาในโครงการใหญ่หลายโครงการในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อยู่เสมอ ๆ จนมาถึงยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย โปรเจคใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สีแดง สีม่วง  ท่าเรือน้ำลึกทวาย รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านที่เต็มไปด้วยปัญหาดังกล่าวข้างต้น ทว่าหลังเข้าพบ คสช.ในครั้งนั้น นายเปรมชัย ออกมาเปิดเผยด้วยตนเองว่า เขาถูกเชิญไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจทั่ว ๆ ไปเท่านั้น 
 
นอกจากความโยงใยดังกล่าวข้างต้นแล้ว ทางข่าวยังยืนยันว่า พบชื่อของเขาถือหุ้นในบริษัท วอเตอร์เกท โฮเต็ล จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายของ "สันติ พร้อมพัฒน์" อดีต ส.ส. และนายทุนพรรคเพื่อไทย ที่มีข้อพิพาทเรื่องที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่ชื่อของ เปรมชัย จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยในปี ช่วง 2555

ประเด็นมีชื่อนายเปรมชัย เข้าไปถือหุ้นเครือข่ายของพรรคเพื่อไทยนี้ สอดคล้องกับที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยรายงานไว้เมื่อปี 2557 โดยอิศรารายงานว่า พบนายเปรมชัย กรรณสูต เจ้าของบริษัทรับเหมารายใหญ่ชื่อดัง ได้ถือหุ้นโรงแรมย่านประตูน้ำของกลุ่มคนใกล้ชิดนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มูลค่า 11 ล้านบาท ก่อนโอนให้บุคคลอื่นในช่วงปลายปี 2555

โดยพบว่า นายเปรมชัย เข้าถือหุ้น บริษัท วอเตอร์เกท โฮเตล จำกัด จำนวน 40,000 หุ้น เมื่อวันที่ 8 ก.ย.54 มูลค่าหุ้นละ 100 บาท (คิดเป็น 20 %ของทุนจดทะเบียน) และเพิ่มสัดส่วนเป็น 110,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท (คิดเป็น 55% ของทุนจดทะเบียน) เมื่อวันที่ 21 พ.ค.55 และโอนกลับในช่วงเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน

บริษัท วอเตอร์เกท โฮเต็ล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 ก.ย.53 ทุน 20 ล้านบาท ประกอบธุรกิจโรงแรม ที่ตั้งเลขที่ 567 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ในช่วงก่อตั้งมีผู้ถือหุ้น 4 รายคือ

1.บริษัท พี แอนด์ เอส พัฒนา จำกัด 50,000 หุ้น
2.น.ส.เรณู ป่างศรี 95,000 หุ้น 
3.น.ส.กัญญารัตน์ ทองแถม 35,000 หุ้น 
4.น.ส.เปรมฤดี พิธพรชัยกุล 20,000 หุ้น ซึ่ง น.ส.กัญญารัตน์ ทองแถม และ น.ส.เปรมฤดี พิธพรชัยกุล เป็นกรรมการ และนายเปรมชัยเข้ามาถือในช่วงปี 2554 ก่อนที่ชื่อจะหายไปในช่วงปี 2555


นั่นคือสายสัมพันธ์คร่าว ๆ ของนายเปรมชัย ที่วันนี้ตกเป็นผู้ต้องหาลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอนุรกษ์ รวมทั้งพกพาอาวุธปืนฯ  กับฟากฟั่งทางการเมืองเครือข่ายทักษิณ...ที่เกาะเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ แค่เรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้านที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะพรรคเพื่อไทยมุบมิบทำโครงการโดยไม่เห็นหัวประชาชน...กรณีนี้กรณีเดียว...ก็ฉีกหน้ากากพวกประชาธิปไตยจอมปลอมจนสิ้นแล้ว...


ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : สำนักข่าวอิศรา