“ธนาธร”ยันทั้งชีวิตไม่เคยรู้จัก "ขบวนการล้มเจ้า" แล้วรู้หรือไม่ว่า"ปิยบุตร"..เขาสนิทกัน??

จะเรียกว่าเป็น “ดาวรุ่ง” หรือ “ดาวร่วง”พุ่งแรงกันดี สำหรับพรรคการเมืองนิยามคนรุ่นใหม่ อย่างพรรคอนาคตใหม่  กับสองผู้ก่อตั้งพรรค ชื่อฮิตติดปากอย่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริษัทไทยซัมมิทและนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตนักวิชาการสมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ขณะนี้กับแนวคิดต้องสงสัยอันหมิ่นเหม่เกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง และเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากสังคม จนทั้งคู่พร้อมใจกันออมาปัดโบย ว่าแท้จริงไม่มีเจตนาโค่นล้มสถาบันฯแต่อย่างใด

 

ก่อนหน้านี้(27 มี.ค.) นายปิยบุตรได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว เรียกได้ว่าว่าร่ายยาวกันเลยทีเดียว ใจความคือการออกปฏิเสธ ถึงการแก้ไข มาตราร112 ที่ตนได้ผลักดันในครั้งอดีตนั้น เพื่อทำให้บุคคลทั้งหลายไม่สามารถนำกฎหมายมาตรานี้มาใช้ทำลายล้างกันได้อีก และบุคคลจะไม่สามารถฉวยโอกาสแอบอ้างเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ทำลายล้างผู้ที่เห็นต่างหรือศัตรูทางการเมืองของตนเอง สถาบันพระมหากษัตริย์จะดำรงอยู่ได้อย่างมีเสถียรภาพ มั่นคง และมีเกียรติยศ ทันสมัย สอดคล้องกับประชาธิปไตย หากกฎหมายอาญามาตรานี้ถูกปรับปรุง  อีกทั้งยังได้ยืนยันว่า ตนจะไม่นำเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาเกี่ยวข้องกับพรรค และไม่นำไปผลักดันในพรรค

 

ขณะที่นายธนาธรได้เปิดใจให้สัมภาษณ์นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย  ออกอากาศรายการข่าว 3 มิติ  เมื่อวันที่27 มีนาคม โดยนายธนาธร ได้พูดคุยพฤติกรรมในอดีต ที่หลายต่อหลายคนยังแคลงใจในความหมิ่นเหม่ที่เกิดขึ้น และสาระสำคัญ นายธนาธรได้ยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า  ช่วงหนึ่งได้กล่าวว่า 

 

“ผมเขียนถึงเรื่องวิทยาศาสตร์ เรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี  แล้วผมก็เขียนว่าพระเจ้าองค์เดียวที่เราจะต้องนับถือ ถ้าอยากให้อุตสาหกรรมไทยก้าวไกล ก็คือพระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ผมหมายความว่าถ้าต้องการให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดับประเทศรายได้ปานกลาง  อยาให้คนไทยมีรายได้มากขึ้น  วิธีการเดินไปข้างหน้าก็คือต้องไม่งมงาย ก็ใช้วิทยาศาสตร์  ใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงประเทศ  ผมหมายถึงอย่างนั้น

 

  ผมคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นความพยายามที่จะโยงผมเข้ากับเรื่องล้มเจ้า  ผมก็ต้องเรียนทุกคนว่าผมเองตั้งแต่เกิดมาในชีวิตก็ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของขบวนการล้มเจ้าที่ไหนเลย หรือไม่เคยรู้จักขบวนการล้มเจ้าที่ไหนเลย  เรื่องนายทุนล้มเจ้าที่มาจากแผนผังอะไรนั้น  มันเป็นสิ่งที่ไม่มีมูลความจริง  เพราะแผนผังนั้นคุณสรรเสริญ แก้วกำเนิด  เป็นคนเอามาเผยแพร่เอง  ก็ยอมรับไปแล้วในชั้นศาลว่าเป็นแผนผังที่ไม่มีความสัมพันธ์กันจริงๆ “

 

จะจริงหรือไม่กับคำกล่าวอ้างของนายธนาธร ว่าทั้งชีวิตของนายธนาธรไม่เคยเกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้าเลย หรือไม่เคยรู้จักกับขบวนการล้มเจ้าที่ไหน แต่ข้อเท็จจริง อีกด้านหนึ่งที่ประชาชนควรรับรู้ นายธนาธร คนนี้ เป็นนายทุนให้สื่อล้มเจ้า ? อย่างนิตยสารฟ้าเดียวกัน  ชัดเจนว่านิตยสารฉบับนี้เป็นนิตยสารที่ได้แสดงอาการการเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  ที่เป็นกระบอกเสียงการเผยแพร่ บทความหมิ่นสถาบันฯอย่าง "โรงงานปรากระป๋อง และ ท่านเจ้าของคอกม้า" ซึ่งเป็น บทละครสมมุติที่อ่านชวนให้เข้าใจผิดเกี่ยวสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิด ตัวละคร อย่าง คุณซาบซึ้ง และข่าวลือเกี่ยวกับเพชรซาอุ ที่ใส่ร้ายสถาบันฯอย่างไม่น่าให้อภัย เพียงเท่านี้ก็น่าจะรู้เจตนาที่แท้จริง โดยไม่ต้องอธิบายใดๆเพิ่มเติม มิหนำซ้ำยังมีการเปิดพื้นที่สนับสนุน บุคคลอย่าง สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล  นายธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดดิสัน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
และอีกหลายคน ให้โจมตีสถาบันอย่างหนักหน่วง

 ร่วมไปถึง การโจมตีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การโจมตีว่า พิธพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ใช้เงินมากเกินไป   กรณีดังกล่าวทำให้เว็บไซต์ฟ้าเดียวกันถูกปิดกั้นให้เข้าถึงไม่ได้เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551 โดยเจ้าของระบุว่าเป็นเพราะเอกชนผู้ให้บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ตยกเลิกการให้บริการหลังจากผู้ให้บริการรับฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ปิดเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพราะกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสั่งการ

 ต่อมายุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เว็บไซด์กลับมาใช้ได้อีก จนมาถึงรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงใช้การได้ แม้จะมีหลายฝ่ายร้องเรียนเนื้อหาที่จาบจ้วงเบื้องสูง และในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีประกาศนโยบายว่าจะปกป้องสถาบัน แต่เว็บไซต์นี้ก็ยังใช้การได้เป็นปกติจนถึงปัจจุบัน และในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 37 พ.ศ. 2552 ฟ้าเดียวกันยังได้ร่วมเปิดบู๊ธนิตยสารและหนังสือด้วย   ซึ่งปัจจุบันนิตยสารและเว็บไซต์ดังกล่าวได้ถูกปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

เอาแหล่ะ..แม้ภายหลังนายธนาธรจะออกมายอมรับว่า ตนกับเพื่อนได้ตั้งสำนักพิมพ์ดังกล่าวโดยลงทุนคนละ 2 แสนบาท หลังจากนั้นสำนักพิมพ์นี้ก็มีกองบรรณาธิการของตนเองขึ้นมา  โดยที่นายธนาธรไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงเนื้อหาใดๆ เลย  มาถึงตรงนี้ ก็เป็นเรื่องที่ท่านผู้อ่านลองชั่งใจ ว่าจะเชื่อน้ำคำของนายธนาธรดีหรือไม่  แต่อย่าด่วนตัดสินใจ เพราะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่น่าสนใจเลยทีเดียว นั้นก็คือ  ในวันแต่งงานของนายปิยบุตร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ คนสำคัญ ได้ปรากฏภาพชัดเจน แสดงถึงความสนิสนทระหว่างนายปิยุบุตร และขบวนการล้มเจ้า

เรียกได้ว่า มี ผู้ต้องหาในมาตรา112 ที่ถูกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ห้ามนำเสนอข่าวเพราะมีพฤติกรรมจาบจ้วงอย่างรุนแรง Video call แทนการรวมงาน  ร่วมไปถึงผู้ต้องหา มาตรา112 ที่หลบหนีออกนอกประเทศ อย่างนายจักรภพ เพ็ญแข และ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ก็รวม Video call เช่นกัน  

 

โดยเรื่องนี้ผู้ที่สนใจในแวดวงการเมืองแบบธรรมดายังสามารถรู้ได้ แล้วนายธนาธรจะไม่เคยรู้ หรือระแคะระคายเลยอย่างนั้นหรือ เป็นไปได้หรือไม่ที่นายธราธรจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นายธนาธรก็คงไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้แทนราษฎรได้เลย

 

มาถึงตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่ท่านผู้อ่านจะตัดสินใจแล้วว่า จะเชื่อคำพูดลูกผู้ชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ดีหรือไม่