ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในห่วงสถานการณ์การเมืองร้อนอยู่ ณ.เวลานี้ ผสมกับกระแสการเดินหน้าทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอาชา นายกรัฐ โดยเฉพาะหลังจากครมสัญจรไปยังจังหวัด”เนวิน” ที่แสนจะชื่นมื่นหวานเจี๊ยบบบบบ.. ยิ่งทำให้อณุหภูมิการเมืองความร้อนฉ่าทวีคูณความรุ่นแรง ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในตอนนี้ ฝั่งตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย ที่ถือว่าคสช.เป็นศัตรูคู่อาฆาต นัมเบอร์วัน เมื่อมีโอกาสเมื่อใด ก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกนำมาตีกิน โจมตีคสช.และพล.อ.ประยุทธ์

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปมแค้น การทุจริตจำนำข้าว เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์หลุดจากอำนาจ และตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องกระเด้งตัวเองออกนอกประเทศ ทิ้งบริวารให้ชดใช้กรรมเพียงลำพัง เรื่องนี้ได้สร้าง ”แผลเป็น" ให้กับชาวนาทั่วทั้งประเทศ เข็ดขยาดกับนโยบายประชานิยม ของฝั่งการเมือง  และทางฝั่งพรรคเพื่อไทยเองก็มักจะออกมาแก้ต่างเรื่องนี้อยู่เสมอ ๆ  เช่นเดียวกับกรณีการ นำ‘หัวรถไถ-เครื่องมือการเกษตร’จำนำที่โรงรับจำนำในพื้นที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ในช่วงใกล้เปิดภาคเรียน

 

 

เริ่มจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้เห็นข่าวที่นายกเทศมนตรีเมืองชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ระบุตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2561 จนถึงปัจจุบัน ชาวนาจังหวัดนครสวรรค์ได้นำหัวรถไถไปจำนำที่โรงรับจำนำของเทศบาลจนล้นโรงเก็บ เพื่อนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยช่วงใกล้จะเปิดเทอมการศึกษา ตนเห็นภาพหัวรถไถเต็มโรงเก็บของเทศบาลแล้วสุดเศร้า อดน้ำตาซึมไม่ได้ ชาวนาไทย ประเทศไทย ตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ได้อย่างไร เมื่อเทียบกับห้วงเวลาก่อนการรัฐประหาร ซึ่งจะครบ 4 ปี ในวันที่ 22 พฤษภาคม 57 ที่จะถึงนี้ นี่คือภาพเศรษฐกิจ ปากท้องของจริงเชิงประจักษ์ ว่ารัฐประหารผ่านมา 4 ปีส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจกับคนส่วนใหญ่อย่างไร เลิกปฏิเสธกันเสียที เพราะชาวบ้านทั่วไปเขาประสบกับตนเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ว่าเงินในกระเป๋าเขาไม่มี มีแต่หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ส่วนที่รวยจนติดอันดับโลกมีสัดส่วนอยู่นิดเดียว เหมือนอยู่บนยอดปิรามิด ซึ่งถ้าฐานที่เป็นคนส่วนใหญ่สั่นคลอน ไม่แข็งแรง ระวังจะเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้าเมื่อฐานล้ม

นายชวลิต กล่าวอีกว่า ที่สื่อสารมานี้เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่า บ้านเมืองจะเดินต่อไปข้างหน้าได้ต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองเป็นปกติ เป็นที่ยอมรับของประชาชนและชาวโลก ถึงจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นประเทศกลับคืนมาได้ จึงขอฝากทุกภาคส่วน ช่วยกันทำให้บ้านเมืองปกติโดยเร็ว

 

ต่อมาเรื่องนี้ถูกขยายความโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความแสดงความเห็นโดยระบุว่า เห็นข่าวเล็กๆ ที่ดูจะไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว คือ ข่าวเกษตรกรนครสรรค์เอาเครื่องมือการเกษตรไปจำนำกันมากอย่างน่าตกใจ

ปรากฏว่า เกษตรกรอำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์ ได้นำเอาเครื่องมือการเกษตร เช่น รถไถนาคูโบต้า เครื่องสูบน้ำ หัวรถไถนา มาจำนำที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชุมแสง กว่า 120 เครื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำเวลานี้ โดยขณะนี้ทางเทศบาลเมืองชุมแสงได้ใช้เงินรับจำนำไปแล้ว 60 ล้านบาท และได้สำรองเงินสดไว้อีก 80 ล้านบาท รวมเงินสำรองไว้ 165 ล้านบาท

นอกจากนี้ เทศบาลเมืองชุมแสง ยังเตรียมที่จะขยายสถานที่เก็บของรับจำนำเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่นำเครื่องมือการเกษตรมาจำนำ เพราะว่าขณะนี้ยังมีเกษตรกรจำนวนมากประสงค์จะเอาเครื่องมือการเกษตรมาจำนำ


จาก “จำนำข้าว” “จำนำพืชผล” มาสู่ “จำนำเครื่องมือการเกษตร” เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีนัยสำคัญมาก “จำนำยุ้งฉาง” ของรัฐบาล คสช.ดูจะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ไม่มีใครทราบว่า มีการจำนำกันไปมากน้อยแค่ไหน จนบัดนี้ไม่ปรากฏว่ารัฐบาลปัจจุบันมีมาตรการอะไรสำหรับเกษตรกรไทยที่กำลังเดือดร้อนสาหัสสากรรจ์อยู่ รัฐบาลมักโอ้อวดถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่สภาพที่เรียกกันติดปากว่า “รวยกระจุก จนกระจาย” อย่างเช่นกรณีของเกษตรกรนี้ดูจะมีตัวอย่างให้เห็นมากขึ้นทุกที

เรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องที่หลายฝ่าย รวมทั้งพรรคการเมืองทั้งหลายต้องช่วยกันคิด จะหวังให้รัฐบาล คสช.แก้ปัญหาเหล่านี้คงไม่ได้ ปลดล็อกเมื่อไหร่ สิ่งที่ควรทำเป็นเรื่องด่วนเรื่องหนึ่ง คือ การรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ดีขึ้นโดยเร็วครับ

 

จากนั้นทีมข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ ได้โทรศัพท์ไปยังโรงรับจำนำในพื้นที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและพบว่า ประการแรก ตัวเลขจำนวนหัวรถไถ-เครื่องมือการเกษตร ที่อ้างว่าเป็นๆร้อยนั้น เกิดจากการเกษตรกรนำมาจำนำและบางส่วนไม่ได้มาไถ่ถอน จึงทำให้สะสมมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่เปิดโรงรับจำนำมา  ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด ทุกๆปีก็ดำเนินมาแบบนี้ ทั้งก่อนที่คสช.จะเข้ามาบริหารประเทศเสียอีก (ฟังเสียงเจ้าหน้าที่กดคลิป)

 

นี่จึงเป็นเพียง วาทกรรมที่ถูกสร้างขึ้นจากลิ้นนักการเมืองอีกแล้ว จงใจที่โกหกคนไทยทั้งประเทศเพราะหวังเพียงแต่คะแนนเสีย และอยากสร้างความเสียหายให้รัฐบาล เพื่อประโยชน์ให้ตัวเองและพรรคพวกเท่านั้น เพราะหากข้อมูลดังกว่า ทั้งนายชวลิตและนายจาตุรนต์ไม่รู้จริง ก็คงไม่เหมาะสมที่จะเป็น “ผู้แทนราษฎร ” ใช่หรือไม่