- 30 ส.ค. 2561
เหยื่อฮือประชาทัณฑ์ขณะทำแผน
ภายหลังจาก พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ปทุมธานี ได้ติดตามจับกุมนายอภิชาติ และน.ส.อุษา ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาอย่างโชกโชนถึง 15 ปีได้แล้ว หลังหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ซอยเพิ่มศิลป์ ซอยพหลโธิน 52 ทาวเฮาส์ 2 ชั้น กรุงเทพมหานคร และจะมีการแถลงข่าวในช่วงเย็นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วนๆ รวบตัวแล้วคู่สามีภรรยาอุ้มหมาตระเวนฉกทรัพย์สินชาวบ้านนาน 15 ปี) (ชมคลิปจับกุมด้านล่าง)
ล่าสุด วันนี้ (30 ส.ค.) พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานีพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงพื้นที่นำผู้ต้องหาทำแผนที่บ้าน นางรสสุคนธ์ วิมูลชาติ (หรือเจ้หมวย) จำหน่ายแห อวน กระชังปลา ที่บ้าน เลขที่ 99/15 หน้าหมู่บ้านฉัตรหลวง9 ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังจากสามารถจับกุมนายอภิชาติ และน.ส.อุษา ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์มาอย่างโชกโชนถึง 15 ปีได้แล้ว
โดยตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี ได้มาติดเทปกั้นรอบร้านเพื่อไม่ให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ขณะทำแผน หลังจากทำแผนใกล้เสร็จ นางรสสุคนธ์ ผู้เสียหาย ได้ตะโกนด่าทอผู้ต้องหาด้วยอารมณ์โกรธแค้น พร้อมมีประชาชนบางส่วนกรูกันเข้ามารุมประชาทัณฑ์คนร้าย เนื่องจากโกรธแค้นโจรสองผัวเมียที่ตระเวนลักทรัพย์จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบกันตัวผู้ต้องหาขึ้นรถออกไปจากที่ทำแผน (ชมคลิปวิดีโอด้านล่าง)
ขณะที่ทางด้าน นางรสสุคนธ์ วิมูลชาติ (หรือเจ้หมวย) กล่าวว่า คนร้ายได้เงินสด 30,000 บาททองรูปพรรณ 20 กว่าบาท รวมมูลค่ากว่า 400,000 กว่าบาท ตอนนี้ได้พระเลี่ยมทองบางส่วนคืนมา ส่วนเงินสดกับทองรูปพรรณที่ถูกขโมยไปยังไม่ได้คืน ก็ดีใจมากๆ ที่ตำรวจจับตัวคนร้ายได้ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีในครั้งนี้
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในหลายพื้นที่ โดยในช่วงแรกจะใช้วิธีการอุ้มลูกไปในร้านขายของต่างๆ เบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ต่อมาเมื่อลูกโตขึ้นก็เปลี่ยนวิธีมาใช้สุนัขในการก่อเหตุแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้สุนัขในการก่อเหตุมาแล้วหลายตัว โดยจะใช้วิธีการแบบเดียวกันกับการอุ้มลูก ให้สุนัขวิ่งเล่นภายในร้านเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ บางครั้งก็จะใช้วิธีการสั่งซื้อสินค้าคราวละมากๆ เพื่อให้ผู้เสียหายสนใจและวุ่นวายกับการจัดของก่อนจะอาศัยจังหวะผู้เสียหายเผลอ ขโมยทรัพย์สิน ก่อเหตุเฉลี่ย 10 ครั้งใน 1 เดือน ทำมานานกว่า 15 ปี ส่วนทรัพย์สินที่ได้ก็จะนำไปจำนำหรือขาย ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและออกก่อเหตุมาหลายท้องที่
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังได้ใช้ใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลอื่นที่หน้าตาคล้ายกัน และใช้ชื่อของบุคคลอื่น ในการแสดงตัวทุกครั้งที่ถูกตำรวจเรียกตรวจ ซึ่งต้องตรวจสอบว่าใช่บัตรจริงหรือปลอม อีกทั้งยังย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ อาทิ รถยนต์บ้านและห้องเช่าก็จะใช้ชื่อของบุคคลอื่นทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สามารถออกหมายจับได้แล้วรวม 17 หมาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบญาติที่พาผู้ต้องหาหลบหนี ส่วนลูกสาวและสุนัขของผู้ต้องหาที่ถูกนำไปใช้ตระเวนก่อเหตุนั้นใน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยังไม่ดำเนินคดี.