สายดิบโปรดคิดใหม่ แบคทีเรียตัวร้ายปนเปื้อนในอาหาร อันตรายถึงชีวิต

 

        กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้กับการค้นหาอาหารทดแทนของเหล่านักทาน ที่ต้องการหาวัตถุดิบอาหารคล้ายกับปูไข่ดอง จนมีคนเกิดไอเดียนำไข่แดงไก่มาแยกไข่ขาวแล้วดองนำปลา แบบที่คนญี่ปุ่นชอบทานกัน ผลที่ได้ของนักชิมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติของมันช่างเหมือนไข่ปูดองน้ำปลา แต่ลดราคาลงหลายร้อยเท่า 

 

      หลัจากกระแสวิธีการทำไข่ไก่แดง ดองน้ำปลากลับมาฮิตอีกครั้ง ได้มีหญิงรายหนึ่งโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของเธอถึงอันตรายของไข่แดงดองน้ำปลา ว่าอาหารอันตรายรับประทานอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเธอได้ประสบพบเจอจากคนใกล้ตัวมาแล้ว จึงอยากออกมาเตือนให้ระวัง แต่กระนั้นก็มีหลายเสียงอ้างว่าประเทศญี่ปุ่นก็มีการรับประทานไข่ไก่ดิบอย่างแพร่หลายเหตุใดถึงไม่ได้รับอันตรายใดๆ ข้อนี้มีหลายคนเข้ามาชี้แจงว่า

 

 

       ประเทศญี่ปุ่นมีระบบอุตสาหกรรมฟาร์มไก่ที่ได้มาตรฐาน และไข่ไก่เป็นแบบ s pure คือไข่ไก่พรีเมียมเลี้ยงแบบออร์แกนิก มีวันที่ระบุความสดใหม่ของไข่ไก่อย่างชัดเจน แต่ก็ยังมีแพทย์หลายท่านออกมาเตือนว่า ถึงแม้จะเลือกไข่ไก่แบบ s pure แต่ก็ยังคงวางใจไม่ได้เพราะก็ยังเสี่ยงต่อแบคทีเรีย Salmonella ที่มากับสัตว์ปีก ได้เหมือนกันทางที่ดีควรรับประทานอย่างปรุงสุกจะปลอดภัยที่สุด

 

 

       นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการนิยมรับประทานอาหารดิบเท่านั้นยังมีเคสที่เห็นได้ชัดและกำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในขณะนี้กับชายสูงวัยชาวเกาหลีใต้ วัย 71 ปี รับประทานปลาดิบเข้าหลังจากนั้นจึงเกิดอาการมือบวม มีตุ่มพองขึ้นมา อาการของชายชรารายนี้ถูกเปิดเผยจากเว็บไซต์วารสารทางการแพทย์  New England Journal of Medicine ถือเป็นเคสกรณีศึกษาอย่างเห็นได้ชัด โดยชายสูงวัยรายนี้มี โรคเบาหวาน , ความดันโลหิตสูง ,โรคไต เป็นโรคประจำตัวร่วมดัวย จากการวินิจฉัยของแพทย์ พบว่าชายสูงวัยรายนี้่ติดเชื้อ vibrio Vulnificus หรือโรคแบคทีเรียแกรมลบ เพียงแค่ทานปลาดิบไป 12 ชั่วโมง เท่านั้น 

 

      เบื้องต้นอาการของชายสูงวัยรายนี้จากการเปิดเผยของแพทย์ มีอาการไข้สูง , มือมีตุ่มพองจนเป็นสีม่วง , และปวดแสบปวดร้อน แพทย์พบว่าตุ่มที่มือของชายสูงวัยมีขนาดราว 3.5 x 4.5 ซม. นอกจากนี้ยังมีการลุกลามไปจนถึงท่อนแขนของเขา แม้แพทย์จะทำการรักษา ด้วยการดูดหนองจากมือออก และให้ยาปฎิชีวนะ รักษาควบคุมไปด้วย แต่ก็ไม่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเชื้อได้ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียได้กัดกินเนื้อที่ฝ่ามือ ของชายสูงวัยรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังลุกลามไปยังท่อนแขน จนได้รับความเสียหายหนัก แพทย์ต้องทำการรักษาราว 25 วัน สุดท้าย จึงตัดสินใจตัดแขนของผู้ป่วยชายคนดังกล่าวทิ้ง เพื่อยับยั้งการลุกลามของเชื้อ

 

 

 

      ทั้งนี้เชื้อแบคทีเรีย Vibrio vulnificus เป็นแบคทีเรียแกรมลบทรงแท่งที่อยู่ในตระกูล family Vibrionaceae เช่นเดียวกับ Vibrio cholerae ที่ทำให้เกิดโรคอหิวาตกโรค และ Vibrio parahaemolyticus ที่ก่อโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ โดยปกติ Vibrio vulnificus มักจะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลที่อบอุ่น ในประเทศตะวันตกมักจะพบผู้ป่วยติดเชื้อนี้ในหน้าร้อน แต่ในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเขตร้อนสามารถพบโรคติดเชื้อ Vibrio vulnificus ได้ตลอดทั้งปี เชื้อนี้มักจะก่อโรคในคนที่กินอาหารทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ หรือมีบาดแผลเปิดที่สัมผัสกับเชื้อได้ ในคนที่แข็งแรงดีเมื่อกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อจะทำให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร

 

    ในคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ปกติโดยเฉพาะถ้ามีโรคตับอยู่ มักจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมด้วย ทำให้มีอาการรุนแรงและอาจถึงกับเสียชีวิต ผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคนที่มีโรคตับจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดมากกว่าคนปกติ 80 เท่า เมื่อรับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย อัตราการตายของคนที่มีการติดเชื้อ Vibrio vulnificus ในกระแสเลือดจะสูงถึงประมาณร้อยละ 50 และร้อยละ 95 ของสาเหตุการตายที่เกิดจากการกินอาหารทะเลมาจากการติดเชื้อนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการติดต่อของโรคดังกล่าวจากคนสู่คน

 

     สำหรับคนที่แข็งแรงดีเมื่อรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อนี้จะทำให้มีเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว และปวดท้อง โดยจะเริ่มมีอาการหลังจากกินอาหารทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อไปประมาณ 16 ชั่วโมง ในคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ปกติโดยเฉพาะถ้ามีโรคตับอยู่มักจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้มีอาการรุนแรงและอาจถึงกับเสียชีวิต โดยผู้ป่วยมักจะมาด้วยอาการเป็นไข้เฉียบพลัน หนาวสั่น ความดันเลือดตก  และมีรอยโรคที่ผิวหนังเป็นแบบตุ่มน้ำ รายที่มีการติดเชื้อรุนแรงมักจะพบว่ามีตุ่มน้ำที่มีเลือดปน 

 

     จากอาการที่กล่าวมานั้นเรียกได้ว่าน่ากลัวมากๆ บวกกับความนิยมของสังคมไทยในปัจจุบัน ที่นิยมทานอาหารดิบหรือปรุงสุกปานกลาง ซึ่งเสี่ยงต่อโรคแบคทีเรียต่างๆ ที่ปนเปื้อนมากับอาหารเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่แบคทีเรียเท่านั้นโรคพยาธิต่างๆ ที่มากับอาหารดิบ หรือแม้แต่ผักที่ล้างไม่สะอาดก็อาจมีสิ่งปนเปื้อนได้เหมือนกัน นี่คือเหตุที่เราจำเป็นต้องทานอาหารปรุงสุกนั่นเอง

 

อ้างอิง nejm , foodnetworksolution