- 02 ก.ย. 2561
คดีส่อพลิก เพื่อนสนิทเปิดแชทลับสาวก่อนสิ้นใจ สวนทางความเชื่อพ่อปักใจเหตุสักลายติดเชื้อHIVทำเสียชีวิต4รายรวด
สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านน้อยสนามบิน ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย เปิดเผยเรื่องราวของลูกบ้าน หลังได้รับแจ้งว่า ลูกสาววัย 22 ปี ของลูกบ้านเสียชีวิตหลังจากไปสักลายพร้อมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน โดยสาเหตุการเสียชีวิต มาจากการติดเชื้อ HIV (เชื้อเอดส์) ในเลือด รวมทั้งหมด 4 ศพนั้น
ต่อมาจากกการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่าช่วงระหว่างวันที่ 15-16 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าตัวโพสต์ข้อความถึงอาการป่วยและระบุด้วยว่า ตัวเองต้องมาเจอกับชีวิตแบบนี้ ทำให้รู้สึกสงสารพ่อแม่ นอกจากนี้ยังมีแชทที่เจ้าตัวคุยกับพ่อ ใจความว่า เธอได้ทำงานเป็นโคโยตี้อยู่ที่ซอยนานา โดยพ่อบอกว่าให้เก็บเงินไว้บ้าง ทำงานอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฎหมาย ส่วนเธอเองก็บอกพ่อว่า เดี๋ยวเธอเองก็ออกจากงานแล้ว เพราะมีการหักค่าหัวคิวเกิดขึ้น และข้อความที่เจ้าตัวโพสต์ ได้ระบุว่า "ปวดจนทรมานไปหมดล่ะ อยากจะกรี๊ดดังๆ"
และจากการสอบถาม นายสมชาย อริยะ เจ้าของร้านสัก ที่พ่อผู้ตายอ้างว่าลูกสาวมาสักกับเพื่อนจนเสียชีวิต บอกว่า ตนไม่ทราบเรื่องที่มีคนสักแล้วเสียชีวิต ซึ่งตนจำรอยสักของตัวเองได้ทุกลาย แต่ปกติเวลาสักให้ลูกค้าก็จะเปลี่ยนเข็มทุกครั้ง
นายสมชาย อริยะ เจ้าของร้านสัก
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะติดเชื้อเอชไอวี จึงอยากให้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเกิดจากรอยสัก หรือเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ส่วนใหญ่ลูกค้าของตนก็มักจะเป็นผู้ชาย และจำไม่ได้ว่าเคยสักลายคาบูกิให้ลูกค้าผู้หญิงที่ข้อเท้าหรือไม่
ด้านนพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ให้ข้อมูลว่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ก่อนอื่นจะต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อนว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดเสียชีวิตจากการใช้เข็มสักลายหรือไม่ ส่วนการเสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวีภายใน 1 เดือนนั้น มีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างยาก และหากเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ราย ก็ยังมองว่าเป็นไปได้ยากอีก
ขณะเดียวกัน น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เพื่อนของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาพักอยู่กับตนที่บ้าน โดยบอกว่าป่วยและขอให้พาไปโรงพยาบาล เจ้าตัวอ้างว่าท่อปัสสาวะอักเสบ แต่สังเกตจากอาการว่าน่าจะเป็นโรคเอดส์ ผ่านไป 1 เดือนก็เริ่มมีอาการหนักขึ้นจึงย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ จ.เลย กระทั่งเพิ่งมาทราบข่าวการเสียชีวิต และมาทราบอีกว่าขณะที่ผู้ตายมาอยู่กับตนนั้นป่วยในระยะสุดท้ายแล้ว
อย่างไรก็ตาม น.ส.บี ยังบอกอีกว่า ตนไม่เคยรู้และเห็นรอยสักของผู้ตายมาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบอกให้ตนช่วยหาร้านสักลายราคาถูก และไม่รู้ว่าเพื่อนของที่ตายอีก 3 คนเป็นใคร แต่โดยส่วนตัวไม่คิดว่าผู้ตายจะติดโรคจากการสัก แต่อาจจะติดจากการมีเพศสัมพันธ์มากกว่า
ขอบคุณรายการ : ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34