- 07 ก.ย. 2561
อันตรายสุดๆ ตร.สอบอุโมงค์มรณะเจอน้ำผุดไหลท่วม รองโฆษกอสส.ชี้เอาผิดหมู่บ้านได้ ไม่ใช่เหตุครั้งแรก
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประเวศ ได้รับแจ้งมีรถกระบะจมน้ำ และมีผู้ติดค้างภายในรถ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี โดยเหตุเกิดบริเวณถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เลยสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์บ้านทับช้าง เลี้ยวเข้าถนนทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งบริเวณดังกล่าวต้องลงอุโมงค์ลอดทางรถไฟเพื่อเข้าออกหมู่บ้าน
ต่อมาทางด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดเผยถึงกรณี หลังทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า "เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 5 ก.ย. คือ ฝนตกในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้น้ำบนพื้นดินไหลมารวมกันภายในอุโมงค์ทางลอด โดยปกติอุโมงค์จะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบน้ำออกขณะฝนตก แต่ระหว่างที่ผู้เสียชีวิตขับรถยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อลอดอุโมงค์นั้น เครื่องสูบน้ำไม่เปิดทำงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ก็ไม่ได้แจ้งต่อผู้ขับรถคันดังกล่าว
เมื่อขับรถเข้าไปยังทางลอดเครื่องยนต์เกิดดับกระทันหัน ขณะที่ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจนเต็มอุโมงค์ ทำให้หญิงผู้ขับรถเสียชีวิตในเวลาต่อมา" และก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ว่าผลการชันสูตรศพมาจากการที่น.ส.ภานุมาศ ขาดอากาศหายใจ อันเป็นผลของการสำลักน้ำและของเหลว จนเสียชีวิตในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ผู้ว่าฯอัศวิน" ชี้สาเหตุน้ำอุโมงค์ท่วมรถนักธุรกิจสาว เครื่องสูบเอกชนไม่ทำงาน เปิดผลชันสูตรเสียชีวิตทรมาน
ล่าสุดทางด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิต น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี นักธุรกิจสาว ได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวชฯ โดยมีนายรุ่งสิทธิ์ เตชะวงศ์สกุล น้องชาย เดินทางมารับศพน.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออพติโม (ประเทศไทย) จำกัด นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และจำหน่ายเครื่องสำอางนำเข้า
ซึ่งเสียชีวิตขณะขับรถรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตูขับลอดอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ ทางเข้าหมู่บ้านโกลเด้นนครา หลักกม.3+800 ขาเข้า ถนนมอเตอร์เวย์ที่เชื่อมต่อไปยังซอยอ่อนนุช 65 แยก 14 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร แล้วเกิดน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดกระทุ่มเสือปลา แขวงประเวศ เขตกระเวศ กทม. ก่อนจะนำไปฝังที่สุสานบริษัทเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค จำกัด อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
โดยบรรกาศการรับศพวันนี้เป็นไปท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว พร้อมกับขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนไม่ให้สัมภาษณ์และไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นเนื่องจากเป็นเรื่องภายในครอบครัว ซึ่งแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพแล้ว ระบุว่า น.ส.ภานุมาศ เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักน้ำและของเหลว
ขณะที่ทางด้านนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ถึงกรณีพบศพผู้หญิง วัย 41 ปี จมน้ำในอุโมงค์ หมู่บ้านหรู เขตประเวศ ว่า ที่เกิดเหตุเป็นอุโมงค์ลอดทางรถไฟของหมู่บ้านหรู ที่ขออนุญาตการจากรถไฟแห่งประเทศไทย สร้างขึ้นและติดตั้งระบบสูบน้ำเพราะมักจะเกิดน้ำท่วมอุโมงค์ในช่วงหน้าฝน และช่วงเมื่อคืนที่เหตุเกิด เป็นช่วงจังหวะที่ผู้เสียชีวิตขับรถออกจากหมู่บ้านลุยน้ำในอุโมงค์
แต่เครื่องยนต์ดับกะทันหัน และได้ทราบจากทางญาติว่าผู้ตายได้โทรศัพท์ไปแจ้งยังครอบครัว ให้ออกมาช่วยเหลือ ซึ่งขณะนั้นน้ำท่วมประมาณ 1 เมตร แต่อยู่ๆ น้ำก็เกิดทะลักเข้าท่วมอุโมงค์จนเต็ม ทำให้ผู้เสียชีวิตหนีออกมาจากรถไม่ทัน ขณะนี้เขตได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสูบน้ำออกแล้ว เพื่อนำรถปิคอัพออกมา
จากการติดตามเหตุการณ์ พบว่ามีคนไปตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมาช่วยเหลือ แต่พบว่าเสียชีวิตในรถแล้ว ซึ่งเหตุดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะหมู่บ้านนี้มีป้อมรักษาความปลอดภัย อยู่ที่หัวอุโมงค์ทางลอด กับท้ายอุโมงค์ฯ ติดมอเตอร์เวย์มี รปภ. มีกรวยยาง มีเก้าอี้มาตั้ง ส่วนเส้นทางที่ผู้เสียชีวิตออกมา ไม่มีอะไรกั้นไว้เลย เป็นไม้กระดกเปิด จึงได้สอบถามรปภ.ว่า ทำไมไม่หาอะไรมากั้นไว้
จึงทราบว่าเมื่อเวลา 21.00 น. ของคืนวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา มีรถยนต์ลงไปแล้ว 1 คัน ตอนนั้นน้ำยังไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เอารถกระบะมาลากขึ้นไป ส่วนการหาสาเหตุว่าปริมาณน้ำมาจากไหนนั้น คงต้องสูบน้ำออกให้หมดเสียก่อน ส่วนเรื่องของคดีความเบื้องต้นเจ้าพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูลเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
ทางด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองเลขานุการอัยการสูงสุด และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำภายในอุโมงค์ทางลอดเข้าหมู่บ้านโกลเด้นนครา เขตประเวศ ว่า จากการติดตามข่าวทราบข้อมูลว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่เกิด เพราะก่อนเกิดเหตุในวันดังกล่าวมีรถเข้าไปจมน้ำในอุโมงค์มาก่อนแล้ว แต่สามารถช่วยไว้ได้ทัน ก่อนจะเกิดเหตุซ้ำในช่วงเที่ยงคืน แต่ครั้งที่ 2 ผู้เสียหายจมน้ำเสียชีวิต
ในทางกฎหมายต้องมาตรวจสอบว่าพื้นที่อุโมงค์ใครเป็นผู้ครอบครองดูแล ถ้าหากเป็นของหมู่บ้านถือเป็นที่ของเอกชน ซึ่งหมู่บ้านก็ดูแลโดยนิติบุคลและมีการเก็บค่าส่วนกลางเพื่อนำไป ใช้จ่ายดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน เปรียบให้เห็นภาพชัดเจนคือ หากเป็นที่ทาง ถนนหนทาง หรือในกรณีที่มีอุโมงค์เข้าหมู่บ้าน หากเกิดความเสียหาย อันตรายใดๆ ขึ้นแล้วไม่มีการดูแลก็เข้าข่ายความผิด ละเมิดต่อบุคคลอื่น
อย่างไรก็ตามกรณีนี้ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องเป็นคดีสืบสวนสอบสวนใดๆ ออกมา แต่จากข่าวที่ออกมา หลังเกิดเหตุครั้งแรก ก็ยังไม่ได้มีการนำไม้กั้น เครื่องกั้น หรือสัญลักษณ์ป้องกันแสดงให้ลูกบ้านที่สัญจรผ่านทางนี้ทราบว่า มีน้ำท่วมในอุโมงค์ แม้ทางหมู่บ้านจะอ้างว่ามีการส่งข้อความแจ้งลูกบ้านผ่านไลน์แล้ว แต่ในกรณีนี้หากลูกบ้านกำลังขับรถ ไม่ได้อ่านไลน์ เพราะตามกฎหมายจราจรห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตรงนี้หมู่บ้านจะต้องคิดว่าจะป้องกันอันตรายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ
นอกจากนี้ทางด้านพ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง โดยได้สอบปากคำไปแล้ว 7 ปาก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) 4 ปาก ทั้งหัวหน้า รปภ. 1 ปาก รปภ. ที่อยู่บริเวณป้อมในหมู่บ้าน ซึ่งน.ส.ภาณุมาศ ขับรถผ่าน 2 ปาก และรปภ. ป้อมทางเข้าหมู่บ้านติดถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ 1 ปาก นิติบุคคล 2 ปาก
และเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่ น.ส.ภาณุมาศ ได้โทรไปขอความช่วยเหลือ 1 ปาก ส่วนญาติยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากทางครอบครัวขอดำเนินการเรื่องศพก่อน และเตรียมเรียกช่างทำระบบเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการประสานกับนิติบุคคลตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สร้างอุโมงค์ดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่าระบบของอุโมงค์มีความบกพร่อง คือ มีน้ำรั่วซึมเข้ามา น้ำที่ลงมาทั้งหมดไม่ได้เกิดจากน้ำฝนที่ไหลมาตามธรรมชาติ โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ทางสำนักงานเขตประเวศได้สูบน้ำออกแล้ว แต่วันนี้ก็ยังมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จึงทำให้วิเคราะห์ได้ว่า ระบบการสร้างอุโมงค์และระบบการป้องกันน้ำของอุโมงค์น่าจะมีจุดบกพร่อง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประสานกับนิติบุคคล เพื่อติดต่อว่าบริษัทใดเป็นผู้สร้าง และให้เข้ามาตรวจสอบระบบว่าน้ำที่ไหลเข้ามาในอุโมงค์ไหลมาจากไหนอย่างไร
เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่ได้ติดกับคูคลองสาธารณะ อย่างไรก็ตามต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบการจัดการระบบอุโมงค์ดังกล่าวมีการบกพร่องอย่างไร หากมีการบกพร่องแล้วทางนิติบุคคลได้มีการสั่งกำชับหรือให้ความปลอดภัยกับลูกบ้านอย่างไรบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก
แต่ถ้าตามข้อมูลที่ปรากฎหลังเกิดเหตุครั้งแรกแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการป้องกัน ก็ถือเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เรื่องการละเมิด โดยในมาตรา 420 บัญญัติว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องค่าเสียหายจากหมู่บ้านได้ ส่วนหมู่บ้านที่ออกมาอ้างว่าได้มีการส่งข้อความแจ้งเตือนทางไลน์แล้ว หลักฐานข้ออ้างตรงนี้จะมีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่ก็ต้องไปต่อสู้ในชั้นศาล ให้ศาลไปตัดสิน ว่ามีน้ำหนักมากพอหรือไม่