- 08 ก.ย. 2561
จากการสำรวจเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยทำการจัดอันดับเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงประชากรที่มีความร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2018
จากการสำรวจเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยทำการจัดอันดับเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงประชากรที่มีความร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2018 ซึ่งน่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่ เมืองฮ่องกง ประเทศจีนนั้น สามารถเบียดแชมป์เก่าหนึ่งในสามมหาอำนาจของโลก อย่างมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตีคู่กันมาตลอด จนขึ้นเแซงเป็นอันดับ 1 ด้วย จำนวนมหาเศรษฐีราว 10,000 คน ที่มีทรัพย์สินอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 980 ล้านบาท
จากผลการสรุป 10 อันดับแรกมีดังนี้
1. ฮ่องกง จีน เป็นเมืองที่พัฒนาทางเศรษฐกิจในลักษณะเฉพาะ รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางการค้าและโลจิสติกที่สำคัญระดับโลก นอกจากนี้ฮ่องกงยังเป็นเวทีสำคัญให้ผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วทุกมุมโลกได้มาพบกันอีกด้วย
2.นิวยอร์ก สหรัฐ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา อีกมุมหนึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลกจากความเฟื่องฟูทางด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้รัฐนิวยอร์กยังมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่สามในสหรัฐฯ รองจากรัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ด้วยความที่มีธุรกิจรองรับความต้องการหลากหลายตลอด 24 ชม. ด้วยเหตุนี้นครนิวยอร์ก จึงถูกขนานนามว่า เมืองที่ไม่เคยหลับไหล
3.โตเกียว ญี่ปุ่น เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเฉพาะ และเต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรม
4.ลอสแองเจลิส สหรัฐ เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางด้าน วัฒนธรรมและการบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งยังเป็น 1 ในเมืองท่าสำคัญซึ่งมีบทบาทในทางเศรษฐกิจของรัฐแคลิฟอร์เนียอีกด้วย
5.ปารีส ฝรั่งเศส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ และยังถูกขนานนามว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโลก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากกว่า 30 ล้านคนต่อปี
6.ลอนดอน อังกฤษ เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลก การศึกษา การตลาด แฟชั่น นอกจากนี้ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป
7.ชิคาโก สหรัฐ ในอดีตเคยเป็นเมืองทุ่งนาจนมาพัฒนาเมื่อปี พ.ศ. 2376 (ค.ศ. 1833) จนกลายมาเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งหนึ่งของโลก และในปัจจุบันนับเป็น 1 ใน 10 เมืองสำคัญของโลกทางด้านเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ชิคาโกยังคงเป็นศูนย์กลางทางด้านความเจริญ การเงิน การคมนาคม และวัฒนธรรมที่สำคัญของเขตมิดเวสต์อีกด้วย
8.ซานฟรานซิสโก สหรัฐ เป็นเมืองหนึ่งในรัฐแคลิฟอเนียร์ ปัจจุบันที่นี่เปรียบเสมือนหัวใจด้านไอทีและนวัตกรรมของโลก เป็นแหล่งสร้างงานและรายได้ที่สำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สหรัฐอเมริกายังคงความเป็นมหาอำนาจของโลก
9.วอชิงตัน สหรัฐ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตปกครองพิเศษโคลอมเบีย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตปกครองพิเศษโคลอมเบีย วอชิงตัน มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่หลากหลาย และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในสหรัฐ วอชิงตันได้รับการจัดอันดับให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก เป็นอันดับที่ 12 และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในสหรัฐ อันดับที่ 5
10.โอซากา ญี่ปุ่น เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตามประวัติศาสตร์แล้ว โอซากาเป็นศูนย์กลางการค้าของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะในยุคกลางและก่อนยุคใหม่ โดยในปี พ.ศ. 2468 มีการก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ อันเป็นบริษัทโบรกเกอร์หุ้นบริษัทแรกของญี่ปุ่น จนกระทั่งปัจจุบัน โอซากาก็ยังเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนฟิวเจอร์สที่สำคัญของโลก จากการศึกษาของสหรัฐอเมริกา โอซากาเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับสองของโลกสำหรับคนต่างด้าว เป็นรองเพียงแค่โตเกียว