- 11 ก.ย. 2561
อัยการชี้ชัด "เก่ง เกียร์อาร์" โดนเพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีพ
เชื่อว่าหลายคนยังจำเรื่องราวนี้ได้ดี เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 ดีเจเก่ง ภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ตกเป็นข่าวโด่งดัง หลังถอยรถกระบะชนรถยาริส เจ้าตัวก็เจอกระแสกระหน่ำหนัก ทำให้ชีวิตตกอับ ไม่มีเงิน ไม่มีงานทำ ซ้ำยังโดนกรมการขนส่งทางบกลงโทษยึดใบขับขี่นายภัทรศักดิ์อีกด้วย
ต่อมาเรียกได้ว่าฟ้าหลังฝนสุดๆ เมื่อเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม หลังได้ใบขับขี่คืน ระบุข้อความดังนี้ "คุ้มค่ากับการรอคอย 2ปี8เดือน ใครดีกับเราๆก็จำ..ใครเลวกับเรา..รอดูผลกรรมมันครับ" พร้อมกับเผยว่าต่อไปนี้ตนจะใช้สิตในการขับรถเเละไม่ใจร้อนอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : วันนี้ที่รอคอย เก่ง เกียร์อาร์ ยิ้มหน้าบาน ได้ใบขับขี่คืน
แต่หลังจากเจ้าตัวโพสต์ข้อความนี้ลงโซเชียล ดูเหมือนว่าจะเจอดราม่าจากชาวเน็ตเพียบ จนทางด้านนายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก ต้องออกมาเปิดเผยถึงกรณีนี้ สำหรับการคืนใบอนุญาตขับรถให้แก่นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ดีเจจัดรายการสถานีวิทยุ (เก่ง เกียร์อาร์) และอาจจะเรียกคืนใบขับขี่ด้วยนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมขนส่งออกโรงเคลียร์ โซเชียลสงสัยทำไม "เก่ง เกียร์อาร์" ได้คืนใบขับขี่ตลอดชีพ งานนี้คนดังมีเงิบหงายแน่
ล่าสุดนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า โซเชียลมีเดีย หรือเฟซบุ๊ก ไม่ได้มีไว้เพื่อบอกว่าเราทำอะไร หรืออวดว่าเราทำอะไร แต่ในทางตรงข้าม โซเชียลวันนี้นิยมการตรวจสอบว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนไม่จริง ข้อมูลที่ปรากฏในโซเชียลจึงเป็นข้อมูลสาธารณะที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริง หรือที่ต้องคิดแล้วมีประเด็นต่อทางสังคม จะถูกวิจารณ์และตั้งข้อสังเกต และนำไปสู่การตรวจสอบ
เมื่อวานนี้ตนได้รับโทรศัพท์จากสื่อมวลชน โทรเข้ามาสอบถามถึงเรื่องใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถยนต์ของ นายภัทรศักดิ์ หรือ เก่ง เกียร์อาร์ ที่เคยมีคดีถอยรถชน สอบถามถึงคำพิพากษาที่อัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องคดีไว้ จึงได้ให้นิติกรสำนักงานอัยการฝ่ายแขวงพระนครเหนือ 2 ไปคัดคำพิพากษาที่ศาลอีกครั้ง จนทราบว่า หลังจากที่ศาลแขวงพระนครเหนือพิพากษาลงโทษจำคุกนายภัทรศักดิ์ และเพิกถอนใบอนุญาตตลอดชีพ
ปรากฏตามคดีหมายเลขดำ 1116/2559 แดง 1791/2559 นั้น ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 3 เดือน 15 วัน ไม่รอลงอาญา และสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์ จำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือน 15 วัน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาให้รอการกำหนดโทษ 3 ปี คุมประพฤติ 2 ปี
จะเห็นได้ว่า จำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษาเฉพาะโทษจำคุก แต่ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์โทษเพิกถอนใบอนุญาต ดังนั้นประเด็นปัญหาว่าศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้หรือไม่ จึงยุติไปตามศาลชั้นต้นคือ ศาลให้เพิกถอนใบอนุญาต และคำพิพากษาส่วนนี้ถึงที่สุดแล้ว ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งศาลชั้นต้นจะมีหนังสือแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการตามคำพิพากษา
ก่อนจะทราบต่อมาว่าทางด้านนายกมล บูรณพงศ์ อธิบดีกรมขนส่งทางบก ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นนี้แล้วว่า เก่ง เกียร์อาร์ นั้นมาขออกใบขับขี่หรือใบอนุญาต โดยอ้างว่าศาลพักใช้ใบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งขณะที่มาขอกรมขนส่งฯ ยังไม่ทราบและยังไม่ได้รับหนังสือสำคัญแสดงว่าคดีถึงที่สุดจากศาล จึงออกใบอนุญาตให้นายเก่งไป และกำลังจะเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เมื่อได้รับหนังสือสำคัญจากศาลต่อไป
ซึ่งคดีนี้จำเลยใช้สิทธิอุทธรณ์ ฎีกา ระหว่างคดียังไม่ถึงที่สุด จึงอาจอยู่ระหว่างการดำเนินการทางเอกสาร แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงตามที่นายเก่งได้โพสต์ข้อความโอ้อวดลงในเฟซบุ๊ก เมื่อมีผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก ก็ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาต่อไป
“การโพสต์เฟซบุ๊กของนายเก่ง จะเป็นการสร้างผลลบให้ตัวเอง เพราะโซเชียลก็จะออกมาทวงถาม เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการกันต่อไป
เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นำโซเชียลมีเดียมาช่วยกันตรวจสอบสังคม และช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย และขอฝากให้ระมัดระวังการโพสต์การแชร์ ไม่ให้ผิดกฎหมาย เช่นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์"