- 18 ก.ย. 2561
ฉกภาพถวัลย์ค่ากว่า300ล้าน ลูกลั่นพ่อตายไม่เคยนำขาย ยอมอดไม่คุ้ยกินอย่างหมาข้างถนน
จากกรณี นายดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชายนายถวัลย์ ดัชนี หรืออาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศน์ศิลป์ ปี 2544 จิตรกร ช่างเขียน โดยมีการร้องทุกข์ภาพวาดของอาจารย์ถวัลย์ หายไปกว่า 100 รูป มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นเนื่องจากเป็นผลงานก่อนที่อาจารย์ถวัลย์ จะเสียชีวิตไปเมื่อ 3 ก.ย.2557 ทางพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งชุดทำงานคลี่คลายคดีลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อมูล เนื่องจากภาพวาดอาจารย์ถวัลย์ ถือเป็นงานศิลปะที่สำคัญและมีมูลค่าสูง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.60 นายดอยธิเบศร์ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ชัยรัตน์ คำสุพรม รอง สว.(สอบสวน) สน.บางชัน ว่า ภาพวาดของอาจารย์ถวัลย์ ที่ถูกจัดเก็บไว้ภายในบ้านเลขที่ 170/109 หมู่บ้านเกษราคลาสสิคโฮม ถนนเสรีไทย แขวงและเขตคันนายาว กรุงเทพฯ ถูกขโมยจากบ้านหลังดังกล่าว 3 รูป คือ รูปนกอินทรี 2 รูป และรูปควายพื้นแดง 1 รูป มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาททราบข้อมูลเบื้องต้นว่า นักสะสมภาพวาดได้ซื้อไป โดยที่ทายาทคือ นายดอยธิเบศร์ ไม่ทราบเรื่องมาก่อน
ต่อมา นายดอยธิเบศร์ ตรวจสอบภายในบ้านบ้านเลขที่ 170/109 หมู่บ้านเกษราคลาสสิคโฮม พบว่าภาพของอาจารย์ถวัลย์ ที่มีอยู่ในห้องเก็บของไม่ต่ำกว่า 600 ภาพ และมีภาพวาดหายไปกว่า 100 รูป มูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งภาพวาดส่วนใหญ่เป็นภาพวาดจำพวก สัตว์ป่า
“ก่อนหน้านี้ได้บันทึกภาพเก็บไว้แล้วทั้งหมด และเมื่อกลับมาตรวจสอบที่บ้านพัก พบว่ามีภาพหายไปบางส่วน มีข้อมูลทางโลกออนไลน์ว่า กลุ่มนักสะสมภาพบางราย มีการนำภาพวาดของอาจารย์ถวัลย์ มาโชว์และประกาศขายโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย จึงเริ่มตรวจสอบพบว่าภาพที่หายไปแล้วติดตามได้ รู้ตัวคนซื้อไปมี 3 ภาพ คือ รูปนกอินทรี 2 รูป และรูปควายพื้นแดง 1 รูป มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท ส่วนรูปอื่น ๆ อีก 110 ภาพ ยังไม่ทราบว่าบุคคลใดซื้อไปครอบครอง โดยสรุปแล้วมีรูปหายไปทั้งหมด 113 รูป มูลค่าไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท”
ล่าสุดนายดอยธิเบศร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Doytibet Duchanee พูดถึงการสอนของพ่อต่อลูก รวมทั้งทรัพย์สมบัติมรดกที่พ่อทิ้งไว้ให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพวาดที่มีมูลค่าสูง ซึ่งข้อความทั้งหมดระบุว่า
#การเลี่ยงลูกแบบพญาราชสีห์
ย้อนกลับไปตอนผมยังเป็นเด็ก ผมมีคำถามมากมายอยู่ในหัวว่าทำไมพ่อผมถึงมีวิธีเลี้ยงลูกแบบนี้ ทำไมไม่เลี้ยงลูกเหมือนพ่อคนอื่นๆ ผมใช้เวลาค้นหาคำตอบอยู่ค่อนชีวิต สุดท้ายก็ได้ค้นพบคำตอบว่า วิธีการเลี้ยงลูกของพ่อคือการเลี้ยงลูกแบบสิงโต “ถ้ามันไม่แกร่งพอ ก็ให้มันตายไปซะ”
หลายคนคงคิดว่าตั้งแต่วินาทีที่พ่อหมดลมหายใจ น่าจะเป็นเวลาที่ผมสุขสบายที่สุดจากการได้รับมรดก แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ซึ่งหลายคนก็คงพอทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พ่อผมเสียชีวิตลง จนถึงขั้นที่ผมเคยคิดจะตายตามพ่อไป แต่ด้วยเลือดของพ่อที่มันไหลเวียนอยู่ในกาย ทำให้ผมลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ตลอดระยะเวลาตั้งแต่พ่อได้จากผมไป ผมไม่เคยแตะต้องทรัพย์สมบัติ ไม่เคยเอาภาพผลงานออกไปขาย หรือใช้เงินมรดกแม้แต่สตางค์แดงเดียว แม้จะลำบากมากแค่ไหน ที่ต้องดูแลทุกอย่างเพียงลำพังโดยไร้การช่วยเหลือจากทางใด ผมยอมที่จะดื่มเลือดกินเนื้อตัวเองแบบลูกสิงโตดีกว่าจะยอมคุ้ยหาเศษอาหารกินเหมือนหมาข้างถนน และจะไม่มีวันทรยศต่อลมหายใจของพ่อ
เพราะลมหายใจของพ่อ อยู่ในผลงานศิลปะทุกชิ้นที่พ่อได้สร้างสรรค์ขึ้น ผมเป็นทายาทผู้สืบสันดานถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว และเป็นผู้จัดการมรดกตามคำแต่งตั้งศาลแต่เพียงผู้เดียว หน้าที่ของผม คือการสืบทอด สืบสาน สืบต่อ และรักษามรดกของพ่อ เพื่อทิ้งไว้ให้เป็นสมบัติของแผ่นดินสืบต่อไป
“ผมจะใช้ลมหายใจของผมดูแลผมหายใจของพ่อจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต”
ดอยธิเบศร์ ดัชนี
17/9/2561
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Doytibet Duchanee
ภาพ : www.thawan-duchanee.com