ฟันดาบสอง6ตร.ยัดยา! ผลสอบมีมูลส่งปปท.เชือดซ้ำ ย้อนพฤติกรรมสาวประวัติลึก

จากกรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำปากซอยพระราม 6 พร้อม น.ส.สโรชา แน่นอุดร อายุ 30 ปี ลูกสาว แจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศดาบตำรวจ สังกัดกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และพวกประมาณ 10 คน ร่วมกันยัดยาเสพติด จากนั้นจึงขู่กรรโชกและใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เรียกรับเงินสินบนเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท

 

 

 

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นายศักดิ์ชัย กำลังขายส้มตำอยู่ น.ส.สโรชา แน่นอุดร อายุ 30 ปี ลูกสาว เดินมาร้องไห้กับตนพร้อมบอกว่า ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 165/12 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. จึงรีบเดินทางไปที่บ้านพัก พบตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย เข้าค้นบ้านพักของตน จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีหมายค้นหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แสดงให้ดู จึงถามว่าค้นแล้วเจออะไร ตำรวจบอกว่าเจอยาไอซ์ไม่เยอะ เมื่อขอดูของกลาง แต่ตำรวจไม่ยอมให้ดู ก่อนควบคุมตัวลูกสาวของตนไป

 

 

 

 

ต่อมา พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ได้เซ็นคำสั่งให้ 6 นายตำรวจ ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบด้วย

 

1.พ.ต.ต.บัญชา เจือจาน สว.ธร.สน.บางนา ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.บก.น.1

 

2.ร.ต.อ.สันติ คำพันธุ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.1

 

3.ร.ต.อ.ไพรัช ภู่ระหงษ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.1

 

4.ด.ต.วรพล สันติพิริยาภรณ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1

 

5.ด.ต.เกษม โอชาพงศ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1

 

6.ด.ต.สงกรานต์ ราชไชยา ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1

 

 

ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าได้มอบให้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นตำรวจทั้ง 6 นาย ยังคงให้การปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินคดีต่อไป 

 

 

“ขณะนี้ความจริงเป็นอย่างไรอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่มีมูลแล้ว จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ทางผู้เสียหายยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงต้องถูกดำเนินคดีเรื่องยา ในส่วนของตำรวจถือเป็นการกระทำความผิดด้วยการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ ก็ต้องถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ยังสั่งตรวจสอบข้อมูลเก่า ว่าเคยมีการกระทำความผิดในลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่” พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว