- 21 ก.ย. 2561
การได้มาซึ่งสัปทานในยุค รสช.ทำให้ทักษิณมีร่ำรวยมหาศาล พอที่จะมีพลังดูดมากพอที่ ชักชวนสส. พรรคอื่นๆมาสยบใต้ปีก จนมาเป็นพรรคเพื่อไทย ต่อยอดอำนาจจนว่าสู่เพื่อไทย ในปัจจุบันนี้ หลังจากเรื่องนี้กลับมาเป็นกระแสขึ้นอีกครั้ง พาให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า แท้จริงแล้ว "ทักษิณ" รังเกียจเผด็จการ..รัฐประหารจริงหรือ?
เรื่องร้อนประจำสัปดาห์นี้คงนีไม่พ้น วันครบรอบเหตุการณ์ 12 ปีรัฐประหารรัฐบาลรักษาการ ของทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ออกมาสวมบท เล่นเป็นชายแก่ผู้ถูกกลั่นแกล้งให้ไกลห่างครอบครัว
เนื้อหาในทำนอง 12ปีที่ผ่านมาประเทศย่ำแย่ ประเทศช้ำพอแล้วหรือยัง รอยยิ้มของไทยที่เรียกว่ายิ้มสยามหายไปไหนหมด อีกทั้งตอนหนึ่งยังระบุด้วยว่าในโอกาสครบรอบ 12 ปีนี้ ขอเปิดอกว่าตนเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นตนต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัว ที่พ่อแม่ลูกเราอยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตลอด
จนถูก “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สวนกลับไปแบบแสบๆคันๆถามดังๆไปว่า...12 ปี ถูกรัฐประหาร ใครทำบ้านเมืองวุ่นวาย พร้อมบอกให้ "ทักษิณ" ไปเคลียร์คดีก่อนคิดจะมาปรองดอง
งานนี้ทำเอา “ทักษิณ” หัวร้อน ออกอาการเกรี้ยวกราดแบบสุดๆ ตอบโต้ ทันควัน ทวิตเตอร์ด่วนๆๆๆระบุ "ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ.เลย"
แต่ไม่ทันที่ “บิ๊กป้อม” จะเปร่งวาจาใดๆ .. ในยุค 4.0 ข่าวสารมันไปไว โลกออนไลน์ พร้อมใจขุดภาพแชร์กระหน่ำโซเชียล”ทักษิณ” มือกุม...ต่ำ! พินอบพิเทา นายพลเสื้อคับ“บิ๊กจ๊อด”พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ประธาน รสช.พร้อมย้อนศรเบาๆ
“ ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมายืนกุมต่ำ ขอสัมปทานดาวเทียมเลย” !!
ทักษิณคนนี้แหละ คนที่ไปพินอบพิเทาเกาะแข้งเกาะขาวิ่งขอสัมปทานดาวเทียมไทยคม จนเกิดประโยคอมตะที่ว่า “ไม่มีบิ๊กจ๊อด ไม่มีไทยคม” ในวันที่ส่งดาวเทียมไทยคมขึ้นสู่อวกาศที่เฟรนช์เกียนา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2536
ล่าสุดโลกออนไลน์ ได้มีการเปิดเผยสัญญาณสัมปทานดาวเทียม โดยเป็นทางด้านของเพจ “ยังจำได้ไหม” พร้อมบรรยายว่า..เมื่อแดงต้มแดง 11 กันยา 34 คือ วันได้รับสัมปทานและก็เป็นวันเดียวกันที่ลงนาม แต่เฟสแดงมั่วว่าเป็นวันที่แม้วชนะประมูลสัมปทานคือวันที่ 14 ธันวา 33 ซึ่งเป็นการเลี่ยงเพื่อให้เข้าใจว่าไม่ได้รับจากคณะปฏิวัติรสช. ส่วนนพเหล่ก็มั่วยกเมฆเป็นในปี 32 แต่ไม่ระบุวันเดือนปีไปกันใหญ่ 555
ก่อนหน้านี้ คอลัมน์นิสต์ดังชื่อ“เปลว สีเงิน” ในคอลัมน์ “คนปลายซอย” หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.51 ได้กระชากหน้ากากถลกหนัง “ทักษิณ ที่เสแสร้งอ้างตัวเป็นนักต่อต้านเกลียดชังรัฐประหารนั้น แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นแค่นักฉวยโอกาสประชาธิปไตย ช่วงหนึ่งได้ระบุสัมปทานดาวเทียมไทยคม บางช่วงบางตอน ระบุว่า
“โครงการดาวเทียมสื่อสาร เริ่มมาตั้งแต่ปี 2526 และเริ่มดำเนินการในปี 2528 โดยมีบริษัทเอกชนเสนอตัวมาหลายราย แต่ไม่สามารถทำข้อตกลงให้เป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย กระทั่งปี 2533 จึงมีการประกาศเชิญชวนอีกครั้ง ผลปรากฎว่าบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ได้ชัยชนะเหนือคู่แข่ง โดยมีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2534 ในยุคที่ รสช.เรืองอำนาจ หลังก่อรัฐประหาร 7 เดือน”
อย่างไรก็ตาม ในเอกสารสัญญาสัมปทานดาวเทียมไทยคม ฉบับดังกล่าวระบุชัดเจนว่า...“สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 11 เดือน กันยายน พ.ศ.2534 ณ กระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร ระหว่าง กระทรวงคมนาคม โดย นายนุกูล ประจวบเหมาะ ตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ฝ่ายหนึ่ง กับ บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โดยพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม”
ดังนั้นสัญญาดังกล่าวจึงมีการทำขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งเป็นรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากการทำรัฐประหารรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช.ที่มี"บิ๊กจ๊อด" ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะ
การได้มาซึ่งสัปทานในยุค รสช.ทำให้ทักษิณมีร่ำรวยมหาศาล พอที่จะมีพลังดูดมากพอที่ ชักชวนสส. พรรคอื่นๆมาสยบใต้ปีก จนมาเป็นพรรคเพื่อไทย ต่อยอดอำนาจจนว่าสู่เพื่อไทย ในปัจจุบันนี้ หลังจากเรื่องนี้กลับมาเป็นกระแสขึ้นอีกครั้ง พาให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า แท้จริงแล้ว "ทักษิณ" รังเกียจเผด็จการ..รัฐประหารจริงหรือ? หรือเพียงลมปากพูดไป เพราะตนเองเสียผลประโยชน์ ?