- 08 ต.ค. 2561
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีชุดเฉพาะกิจพญาเสือและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้เข้าตรวจสอบ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) หลังทางอุทยานฯ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีคนลักลอบเข้าไปในเขตอุทยาน เป็นกลุ่มออฟโรดจำนวน 6 คัน จึงวางแผนเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งพบกลุ่มรถออฟโรดจำนวน 6 คัน ตรวจสอบโดยละเอียด คันที่ 5 พบ 1.อาวุธปืนไรเฟิล ติดกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง 2.อาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุน 3.ซากสัตว์ป่า (อุ้งเท้าหมีขอ 4 เท้า) โดย กลุ่มออฟโรดดังกล่าวนำทีมโดยปลัดอำเภอแห่งหนึ่ง และ อส.ในทีมนั้น
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุม คือ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี หรือ ปลัดแมน โดยเบื้องต้น นายวัชรชัย ไม่ยิมยอมให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ แตะต้องตัว และขู่จะฟ้องกลับ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค ในฐานะรักษาการ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ เจ้าหน้าที่จึงประสานทหารร้อย รส.มทบ.17 พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เข้าตรวจค้น
นายวัชรชัย กล่าวว่า เข้าไปทำบุญที่สำนักสงฆ์เต่าดำ โดยได้ไปบริจาคสิ่งของและได้นอนพักค้างคืนอยู่ภายในสำนักสงฆ์เต่าดำ โดยคณะทั้งหมดไปถึงสำนักสงฆ์ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันทุกคนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องของการล่าสัตว์ป่า สำหรับซากสัตว์ป่าที่ถูกจับ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทราบแต่เพียงว่า “อส.ออย” ไปขอแบ่งซื้อมาจากพรรคพวกที่เป็นชาวบ้านเพียงเท่านั้น
ขณะที่ นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ อส.ออย กล่าวว่า คณะได้เดินทางไปแก้บนที่ศาลเจ้าพ่อเขาพลู หลังจากแก้บนเสร็จได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์เต่าดำ และได้พักค้างคืนที่นั่น จนถึงช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. เมื่อทำบุญเสร็จก็ได้ขับรถออกมาข้างนอก ผ่านศาลเจ้าพ่อเขาพลู ตนได้เจอกับชาวบ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพื่อขายของ โดยมีถุงวางอยู่ตะกร้าหน้ารถ เมื่อชาวบ้านเรียกตนจึงจอดรถลงไปดู ครั้งแรกตนเข้าใจว่า เป็นชาวบ้านที่เข้าป่าไปหาเห็ดมาขาย จากนั้นชาวบ้านคนดังกล่าว ก็ได้เสนอขายซากสัตว์ให้กับตนในราคา 100 บาท จึงซื้อมา ส่วนกลุ่มคณะรวมทั้งปลัดอำเภอที่มาด้วยไม่มีใครรู้เรื่อง
ด้าน นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค กล่าวว่า คนปกติเข้าป่าถ้าจะเข้าไปโดยเจตนาบริสุทธิ์ย่อมไปนำปืนเข้าไป นอกจากนี้ยังเจตนาหลบเลี่ยงเข้าไป เพราะไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯทราบ มีการนำเหล้าเข้าไป คนไปเที่ยวป่าเป็นไปได้แค่ไหนว่า จะเข้าไปนั่งปรบมือร้องเพลง ดังนั้นจึงมีองค์ประกอบให้สงสัย เข้าไปเป็นขบวน 6 คัน ไปเจอที่คันใดคันหนึ่ง ตนรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วต้องแจ้งข้อหาร่วม
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ข้อกล่าวที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะแจ้งความดำเนินคดีกับ “แก๊งออฟโรด” ประกอบด้วย
- ร่วมกันเก็บหานำออก ทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพ ทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ
- ร่วมกันนำสัตว์ออกป่า หรือทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์
- ร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออก หรือขับ ขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธปืนเข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่
- ร่วมกันล่าสัตว์ป่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง
- ร่วมกันร่วมมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ ทางด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานข้อมูลกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าตรวจสอบกลุ่มรถออฟโรด ที่นำโดย ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อำเภอเมืองกาญจนบุรี รวม 12 คน และพบอาวุธปืนไรเฟิลติดกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียงพร้อมเครื่องกระสุนและซากหมีขอแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด และถ้าหากเรื่องดังกล่าว พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริง จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิดวินัยร้ายแรง หากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดจริง โทษสูงสุดคือไล่ออกจากราชการ
อย่างไรก็ตาม ยังมีการเปิดเผยรายชื่อ ผู้กระทำความผิดล่าหมีขอในครั้งนี้ จำนวน 12 คน ได้แก่
1. นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย
2. นางสาวศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม
3. นายทัศดนัย ขอกระโชก
4. นายฉัตรชัย เกาะลอย
5. นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์
6. ว่าที่ ร.ต. สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง
7. นายวุฒิพงษ์ เต็มธนัน
8. นายสกานต์ แก่งหลวง
9. นายอนุสรณ์ เรือนงาม
10. นายประสาน เต็มธนัน
11. นางอรุณ แสงใส
12. นายถาวร เซี่ยงหลิว
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า นายโอม คนย่ำป่า ได้โพสต์ข้อความระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
มีข่าวว่า OFF ROAD
เข้าป่าล่าสัตว์ ผมเห็นข่าวนี้แล้ว รู้สึกว่า เราชาวOFF ROAD กำลังถูกคนบางกลุ่ม ทำลาย"ศรัทธา" ของชาวOFF ROAD จิตอาสาลง เพราะ กว่าที่พวกเราทุกกลุ่มจะสร้าง "ศรัทธาขึ้นมาได้ขนาดนี้ สำหรับตัวผมเอง ผมใช้เวลาให้ผู้คนเข้าใจจิตอาสาของคนที่ใช้รถ4WD ผมใช้เวลามาเกือบ30ปี แล้วก็มีกลุ่มอื่นอื่นอีกตามมาบางกลุ่มไม่น้อยกว่า20ปี ที่สะสมศรัทธามา
เมื่อก่อน คนทั่วไปมองพวกOFF ROAD ว่าเป็นพวก เถื่อน ถ่อย ไร้สาระ แต่พอมีการใช้รถ4WD เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ทุกข์ยากในหลายๆรูปแบบบ่อยเข้าๆ แล้วใช้เวลาสม่ำเสมอในการช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัตใดๆ เราจะเห็นชาวOFF ROAD นำรถออกมาช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่องราว จนปัจจุบัน ประชาชนทั่วไปมองภาพชาวOFF ROADว่าเป็น "ประชาชนจิตอาสาแนวหน้าของประเทศ"
แต่วันนี้ กลับมีกลุ่มOFF ROAD กลุ่มหนึ่งเพียง6คัน เข้าป่า "ทำลายศรัทธาที่ประชาชนมีต่อเรา ชาวOFF ROAD "ลงไปจนหมด เพียงแค่สนองตันหาตนเอง"
ผมไม่คิดว่า ยังมีคนที่เห็นชีวิตสัตว์ป่าเป็นเรื่องสนุกอยู่อีก ถ้าเป็นจับปลาปูกุ้งผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่ สัตว์ป่าประเทศเรามันเหลือน้อยเต็มที ทำไมยังต้องถึงอยากล่า อยากกินมันอีก
ผมอยากให้กลุ่มOFF ROADทุกกลุ่ม แสดงพลัง และความคิดเห็นในเรื่องนี้ออกมา เพื่อปกป้องและสร้างศรัทธาที่เสียไป ให้กลับมาอีกครั้ง โดยร่วมกัน "ประนามกลุ่มที่ทำลายศรัทธาที่เรามีต่อประชาชนนี้" เพียงแค่...ต่อต้าน อย่างเป็นทางการ ใน"หน้าFB ของกลุ่มท่าน" และใครทราบว่าเป็นกลุ่มไหน ก็บอกกล่าวกันด้วย
ผมเพียงได้แต่หวังว่า...เราชาวOFF ROAD จะช่วยกัน"กู้ชื่อชาวOFF ROAD กลับมาได้โดยเร็ววัน ผมเองอยากให้กลุ่มที่มี"ฝีมือออกแบบสติ๊กเกอร์" ออกแบบสัญญาลักษ์"ต่อต้านOFF ROAD เข้าป่าล่าสัตว์"มา แล้วให้ทุกกลุ่ม ไปทำสัญญาลักษณ์นี้ติดที่รถของตน "เพื่อให้ประชาชนทราบว่า เราไม่ใช่กลุ่มที่เข้าป่าล่าสัตว์" แต่เราเป็นพวก OFF ROADจิตอาสา คลายทุกข์ให้พี่น้องร่วมชาติเท่านั้น
ใครเห็นดีด้วย ด็ส่งเสียงมาครับ ออกแบบมาแยะๆ แล้วเรามาเลือกกัน ว่า"แบบไหนดีที่สุด" แล้วเรา" ติดกันทั้งประเทศ เพื่อเรียกศรัทธาของเราคืนมา"
ผมบอกตรงๆว่า "ผมเสียใจมากไม่กล้าขับรถ4WDเลยวันนี้ เพราะรู้ดีว่า.....สายตาผู้คนบนท้องถนนที่จ้องมองเรา เค้าคิดอะไรอยู่ แม้ว่าเราไม่ใช่6คันนั้นที่ทำลายศรัทธาประชาชนที่มีต่อเรา แต่ผม....ละอายใจแทนพวกเค้าที่กล้าทำเช่นนั้น เพียงเพื่อสนองตัญหาตนเอง ละอายจริงๆ...
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : นายโอม คนย่ำป่า