- 11 ต.ค. 2561
นับว่าในแวดวงทางการเมืองและสื่อบันเทิงคงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้กับนักพูด ทนายความ หรือพิธีกร แล้วแต่คนจะเรียกเธอสำหรับ "ลีนา จังจรรจา" หรือ ลีน่าจัง
นับว่าในแวดวงทางการเมืองและสื่อบันเทิงคงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้กับนักพูด ทนายความ หรือพิธีกร แล้วแต่คนจะเรียกเธอสำหรับ "ลีนา จังจรรจา" หรือ ลีน่าจัง ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชีวิตเต็มไปด้วยสีสัน หลายคนที่ได้เห็นเธอตามหน้าสื่อโทรทัศน์สื่ออินเตอร์เน็ตต้องร้องอ่อ... เมื่อได้ยินชื่อนี้ เพราะแต่ละครั้งที่ลีน่าจัง นั้นเป็นข่าวจะสร้างเสียงฮือฮาให้ผู้ชมที่เห็นเรื่องราวของเธอไม่ว่าจะเป็นทางด้านดี หรือเสียงวิพากษ์วิจารณ์
ในด้านชีวิตส่วนตัว ลีน่าจัง เกิดในครอบครัวของคนจีน ในตอนแรกชื่อแต่เดิมว่า ลีนา แซ่จัง เป็นลูกคนที่ 9 จากทั้งหมด 12 คน คุณแม่ชื่อ ล่วงมุ้ย แซ่ตั้ง คุณพ่อชื่อ คี่หงอ แซ่จัง ในวันที่เดินทางไปแจ้งเกิดคุณพ่อของลีน่าจัง นั้นชื่นชอบหนังอินเดีย จึงตั้งชื่อตามนางเอกอินเดีย ลีน่า ในส่วนนามสกุล จังจรรจา ได้เปลี่ยนในปี 2547 เพื่อลุยเส้นทางการเมือง
ด้านชีวิตคู่ของลีน่าจัง กับสามีคนแรก นายวัยชัย แสงพรศรีอรุณ เกิดจาการถูกเปิดบริสุทธิ์ในห้องน้ำ ตั้งแต่ตอนอายุ 19 ปี ซึ่งตอนนั้น ลีน่าจังเล่าอีกว่า ถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน จึงต้องไปอาศัยอยู่กับ สามีคนแรกซึ่งเหตุการเปิดบริสุทธิ์นี้เกิดจากลีน่าจัง ลงมาเข้าห้องน้ำ จากนั้นสามีคนแรกก็เดินลงตามมาด้วยจึงเกิดเป็นการข่มขืนกัน แต่ด้วยความรักแม้จะขัดขืนในตอนแรก แต่หลังจากนั้นเธอก็ยอมแต่โดยดี จนกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันและฝ่ายชายก็ได้พาเธอไปจดทะเบียนในที่สุดจนอยู่กินกันมาถึง 16 ปี และมีลูกชายด้วยกัน หลังจากนั้นจึงได้เลิกกันด้วยเหตุผลบางอย่าง
ด้านการศึกษาลีน่าจัง สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยแรงบันดาลใจจากการอยากช่วยคน ในตอนนั้น แถมเธอยังเป็นประธานบริษัทส่งออกเครื่องสำอาง ตั้งชื่อร้านว่าไฮโซไซตี้ ตั้งอยู่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ แต่ด้วยพลังในการอยากช่วยคน เธอจึงเปิดมูลนิธิลีน่า เพื่อให้การช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชน และเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วมด้วยเพื่อให้เธอนั้นได้รับความสนใจ ถือเป็นการพีอาร์ ตัวเองอีกทางหนึ่ง ทั้งยังได้เปิดช่องยูทูปของตัวเอง และจัดรายการไปด้วย ลีน่าจัง ถือเป็นจุดเด่นทางการเมืองเมื่อครั้งลงสมัครเลือกตั้งเพราะมักปฏิบัติกิจกรรมโดยแต่งกายฉูดฉาด
หลังจากไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกทม.เมื่อปี 2552 ด้วยบาดแผลทางการเมืองหลายครั้งทำให้เธอหันหลังให้กับเส้นทางการเมืองอยู่พักใหญ่ จนในปี 2557 เกิดข่าวใหญ่กับลีน่าจังอีกครั้งหลังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมฮอตทีวี ที่ลีน่าจัง สร้างมาถูกสั่งปิด โดยประกาศจากกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ในตอนนั้นลีน่าจังออกสื่อร้องไห้ขอความเป็นธรรมต่อพลเอกประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ก็ต้องพลาดหวังเพราะไม่ได้รับการให้เข้าพบ จากนั้นกระแสของลีน่าจังก็กลับมาดังอีกครั้งหลังมีประเด็นกับดาราในวงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อั้ม พัชราภา , ชมพู่ อารยา , หนิง ปณิตา จนเรียกกระแสได้อย่างล้นหลาม
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ชาวเน็ตต่างต้องวิพากษ์ วิจารณ์ มากกับกรณีหมูป่าติดถ้ำหลวง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2561 ที่เธอนั้นจ้างเด็กไปเต้นอยู่หน้าถ้ำเพื่อล้อเลียน จนชาวเน็ตรับไม่ได้กับการกระทำของเธอทำให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าแจ้งความเอาผิดกับลีน่าจัง ถ่ายคลิปในถ้ำพระยานครโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้หลายคนต้องมีคำถามในใจว่าลีน่าจัง เหตุใดจึงสร้างวีรกรรมไว้มากมายเช่นนี้ และทุกวันนี้เธอเอาเงินมาจากที่ใดในการโปรโมทตัวเองจากธุรกิจต่างๆ ที่เธอสร้างมาและทุกวันนี้เธอยังเหลือธุระกิจใดที่ทำเงินบ้าง โดยตอนนี้ธุรกิจที่ลีน่าจังยังเหลืออยู่คือการทำร้านขายเครื่องสำอาง "ไฮโซไซตี้" ที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ และมีอยู่ 2 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท ลีน่าจัง คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 สิงหาคม 2549 โดยนางลีนา จังจรรจา เป็นคณะกรรมการ ดำเนินธุรกิจผลิตเครื่องหอม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำ เพื่อจำหน่ายเครื่องสำอาง ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้
ปี 2556 รายได้ 8,000 บาท กำไร 2,500 บาท
ปี 2557 รายได้ 8,000 บาท กำไร 1,696 บาท
ปี 2558 รายได้ 8,000 บาท กำไร 2,499 บาท
ปี 2559 รายได้ 8,000 บาท กำไร 1,500 บาท
ปี 2560 รายได้ 8,000 บาท กำไร 1,000 บาท
2. บริษัท ฮอท เน็ตเวิร์ค จำกัด จำทะเบียนเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2554 โดยนางลีนา จังจรรจา เป็นคณะกรรมการ ดำเนินธุรกิจการผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อให้ความบันเทิง ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้
ปี 2556 รายได้ 9.53 บาท ขาดทุน 4.3 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 4.66 บาท ขาดทุน 4.1 แสนบาท
ปี 2558 รายได้ 10.4 บาท ขาดทุน 4.07 แสนบาท
ปี 2559 รายได้ 27.07 บาท ขาดทุน 2.27 แสนบาท
ปี 2560 รายได้ 63.46 บาท ขาดทุน 1 หมื่นบาท
นี่เป็นบัญชีรายได้ของสองบริษัทหลักที่เธอทำอยู่ แม้ว่ารายได้จะสวนทางกับรายรับแต่อย่างเพิ่งนิ่งนอนใจไป เพราะเธอยังมีทรัพย์สินส่วนตัวอีกแน่นอนจากการรับงานละคร พิธีกร ต่างๆ ที่ต้องจ้างลีน่าจังไปเพื่อเรียกกระแสให้คนสนใจ รวมถึงรายได้จากรายการทางยูทูปของเธอ นอกจากนั้นการเลือกตั้งในปี 2562 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นเรื่องต้องจับตามองว่าเธอจะมาในรูปแบบไหนหากมีชื่อลีน่าจัง อยู่ในรายชื่อผู้สมัครในศึกเลือกตั้งปี 2562 จริงอย่างที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้า