เจ็บปวดสุดกลั้น! พ่อเปิดใจเล่าความจริงชีวิตอดีต ทำไมโดนลูกด่าตอแหล แต่ไม่คิดโกรธรอ"นิว"หายดีเป็นคนใหม่

จากกรณีมีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปพ่อก้มกราบเท้าลูกชาย หลังลูกชายติดยาบ้าหนักมาขอเงินไม่ได้แล้วทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อ ก่อนที่พ่อจะไปแจ้งความที่สน.สุทธิสาร เพื่อต้องการให้ตำรวจนำตัวลูกไปบำบัด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
 

โดยผู้เป็นพ่อได้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า เจริญศักดิ์ อ่ำอ่อน โพสต์คลิปเรื่องราวพร้อมใจความระบุว่า "ผมยอมรับว่ามีผลดีและเสีย และยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไปที่ทำลงไปด้วยความเสียใจ ลูกติดยาบ้าขนาดหนักมาขอเงินพ่อ ไม่ให้มาทำร้ายพ่อ ต่อยพ่อจนพ่อต้องกล้มลงกราบตีนงั้นไม่ยอม ยังไม่พอเอาหมวกกันน๊อคฟาดพ่อต่ออีกตอนนี้ติดยาขนาดหนัก ผมอยากเอาเขาไปบำบัดแต่ไม่ยอม ชื่อประพนธ์ หรือนิวฝากแชร์ถึงหน่วยงานที่ช่วยเหลือ"

 

โดยภายในคลิปวิดิโอดังกล่าวเป็นภาพของ นายเจริญศักดิ์ และนายประพนธ์ ลูกชาย กำลังสนทนากัน ขณะที่นายประพนธ์มีอาการโมโหและพูดจาข่มขู่อีกฝ่ายก่อนที่นายเจริญศักดิ์จะก้มลงกราบเท้านายประพนธ์ถึง 3 ครั้งเพื่อขอร้องให้ลูกชายหยุดการกระทำดังกล่าว

 

ในวันเดียวกันนั้นนายเจริญศักดิ์ อ่ำอ่อน บิดาของนายประพันธ์ อ่ำอ่อน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สุทธิสารว่าบุตรชายมีอาการมึนเมายา อาละวาด และได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านญาติที่ลาดพร้าว 48 จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานนั้น 

 

 

และเมื่อเวลา 15.30 น. ที่ผ่านมา ที่สน.สุทธิสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายประพันธ์ อ่ำอ่อน จากบ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 48 มาที่โรงพัก พร้อมประสานนายเจริญศักดิ์ ผู้เป็นบิดาให้มาพบที่ห้องสืบสวนของสน. ก่อนนำบุคคลทั้งสองออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน 
 

 

 

 

โดยนายเจริญศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ในฐานะพ่อนั้น ตนพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกกลับคืนมา จนถึงขั้นยอมกราบ วันนี้ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีขอเพียงอย่างเดียวให้ลูกชายกลับคืนมาเท่านั้น ขณะที่ทางด้านนายประพันธ์ได้ยินยอมกราบเท้าพ่อบังเกิดเกล้าคืน

 

 

พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้น ตอแหล โกหก พออยู่ต่อหน้าไมโครโฟนก็พูดอีกอย่าง ทั้งที่ไม่ได้เลี้ยงตนเองมาตั้งแต่เกิด ทั้งนี้เมื่อนายประพันธ์พูดจาลักษณะนี้และมีอาการคล้ายคนเมายา ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวนายประพันธ์คุมกลับไปห้องสืบสวนทันที

 

 

 

ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร ได้เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายประพันธ์ มาทำการตรวจปัสสาวะ ปากกฎว่ามีสารเสพติดในร่างกาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทางลูกชายก็ยอมรับว่าพึ่งจะเสพยาบ้ามา แต่ก็ยินดีที่จะไปเข้ารับการบำบัด ส่วนเรื่องคดีทำร้ายร่างกายนั้น เป็นของสน.ปทุมวัน ก็ต้องให้ท้องที่เกิดเหตุรับผิดชอบไปดำเนินการเอง แต่ทางพ่อไม่ประสงค์จะดำเนินคดี ทุกอย่างก็น่าจะจบไป 

 

 

ทั้งนี้คำพูดที่ลูกยังเมาไม่มีสติอยู่ อาจพูดโดยไม่ยั้งคิด เป็นผลเสียของการเสพยาบ้า อยากฝากเตือนเยาวชนให้เห็นผลเสียของยาเสพติด อย่างไรก็กีในตัวของลูกชายก็ยังมีควมดีอยู้ จึงยอมรับผิดก้มกราบพ่อ แต่เพราะที่เมายาก็อาจพูดในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของเขา  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวนายประพันธ์ส่งตัวไปบำบัดที่สถานบำบัดยาเสพติดต่อไป

 

 

ล่าสุดทางทีมข่าว Deeps News ได้ติดต่อไปยังคุณพ่อเจริญศักดิ์ อ่ำอ่อน ได้เปิดเผยเรื่องราวล่าสุดว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจะพาลูกชายของตนเองไปทำการบำบัด ซึ่งตอนนี้ทราบว่าน่าจะเดินทางไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน กทม. ตนยินดีที่จะได้ทำการบำบัดอาการติดสารเสพติดของลูกชาย 

 

 

คุณพ่อเจริญศักดิ์ อ่ำอ่อน

 

ตอนนี้ก็ไม่กังวลอะไร แต่ยอมรับว่าเสียใจมาก ที่ลูกเป็นแบบนี้ ไม่คาดคิดเลยด้วยซ้ำ ว่าลูกเราจะเป็นแบบนี้ ส่วนที่เขาพูดลั่นว่าไม่ต้องมาสั่งสอน เพราะตนเองไม่ได้เลี้ยงมา ยอมรับว่าสะเทือนใจ แต่เข้าใจลูก ว่าอยู่ในภาวะของฤทธิ์ยาเสพติด ไม่มีคนดีๆ ที่ไหน จะด่าพ่อตัวเองและประจานตัวเองท่ามกลางวงสื่อมวลชน 

 

 

นอกจากนี้พ่อเจริญศักดิ์ ยังเล่าด้วยว่า "ตอนเด็กๆ ลูกชายได้ไปอยู่ที่บ้านปู่ ย่า ตอนนั้นผมยากจน พ่อแม่กลัวเลี้ยงลูกไม่ไหว เลยไปอยู่ที่บ้านปู่ แต่เราไม่เคยห่างกัน เจอกันบ่อย สนิทสนมกันตามประสาพ่อลูก ลูกไม่ได้ขาดความอบอุ่น แต่ไม่รู้ว่าอะไรคือจุดเปลี่ยน ที่ทำให้เขาเลือกใช้ยาเสพติด

 

 

ดีใจที่จะพาเขาไปบำบัด แล้วหลังจากนี้ค่อยมาว่ากัน ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป และขอขอบคุณหลายๆ เสียงในสังคมที่ให้กำลังใจพ่อคนนี้ ในฐานะพ่อ เสียใจมาก ที่เห็นสภาพลูกเป็นแบบนี้ เขาหน้าตาดี มีการศึกษาที่ดี ถูกเลี้ยงดูมาดี ไม่น่าเป็นแบบนี้ แต่พ่อทิ้งเขาไม่ได้หรอก ต้องดูแลต่อไปจนกว่าจะหายดี"