- 31 ต.ค. 2561
"ฉาย บุนนาค" สะท้อนมุมมองผ่านบทความ "ความไม่เที่ยงของชีวิต" สู่บทเรียนเตือนสติ และวิถีทางเพื่อสำนึกพร้อมเผชิญความจริง และแสดงความเสียใจต่อครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” กับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่บริเวณสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม
"ความไม่เที่ยงของชีวิต"...มุมมองความคิด "ฉาย บุนนาค" สู่บทเรียนเตือนสติ และวิถีทางเพื่อสำนึกพร้อมเผชิญความจริง
ถือเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียที่ไม่ใช่แค่สร้างรู้สึกร่วมในหมู่คนไทย แต่ปรากฎการณ์กับ "คุณวิชัย ศรีวัฒนาประภา" นักธุรกิจใหญ่ที่ระดับสินทรัพย์ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ยังทำให้เกิดความเศร้าเสียใจแก่ชาวต่างประเทศจำนวนมากที่รับรู้ข่าวโศกนาฏกรรม เนื่องจาก "คุณวิชัย" ได้สร้างปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่ให้กับสโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ อย่าง "เลสเตอร์ ซิตี้" ให้ใหญ่โตในระดับเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ด้วยหัวใจ และความมุ่งมั่น ทุ่มเท ไม่ใช่แค่เม็ดเงินที่จ่ายออกจากกระเป๋า แล้วคาดหวังผลประโยชน์จากกำไร ในแง่ของการลงทุนทางธุรกิจเท่านั้น
อย่างไรก็ตามอีกแง่มุมหนึ่งของสัจธรรม หลายคนเห็นตรงกันว่าความเป็นชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะ บทบาทใด ไม่ผู้ใดมีความสามารถ เอาชนะกฏเกณฑ์แห่งธรรมชาติได้ "ฉาย บุนนาค" เป็นคนหนึ่งที่สะท้อนมุมมองนี้ผ่านบทความ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ มีใจความสำคัญว่า " ผมในฐานะ “ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทในกลุ่มสปริงนิวส์” และ “ประธานบริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด” ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” กับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่บริเวณสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม
คงไม่ต้องเล่าประวัติ ความยิ่งใหญ่และเกียรติประวัติของผู้ชายไทยที่ชื่อ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” อีก เพราะผู้อ่านคงทราบแล้วจากสื่อหลายสำนัก เหตุการณ์ครั้งนี้คงสร้างความตกใจและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก แต่หากมองในตามหลักธรรมพุทธศาสนาแล้วละก็ นี่คือสิ่ง “ธรรมดา” ตาม “หลักธรรมชาติ” ของโลกใบนี้...การจากไปของคนรู้จัก แน่นอนว่านำมาซึ่งความเสียใจ ความเศร้าโศก แต่ในขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งเตือนใจเราให้คิดถึง “ความตาย” ว่าอยู่ใกล้ตัวทุกๆ ขณะ และเพื่อตอกย้ำความจริงที่ว่า “ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง” - ฉาย บุนนาค กล่าว
“ความไม่เที่ยงของชีวิต” คือ สัจธรรมว่า “ทุกคนเกิดมาต้องตาย”และ “เปลี่ยนแปลงแตกดับตลอดเวลา” นี่คือหลักง่ายๆ ที่เราทุกคนเชื่อ เห็น รับรู้ ได้ยินมาตลอด แต่มักละเลยอย่างสม่ำเสมอ คนเรามักใช้เวลาส่วนใหญ่กับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง หรือมัวแต่หลงเพลินไปกับกิเลสต่างๆ จนทำให้ใช้ชีวิตด้วยความประมาทและไม่ได้เตรียมตัวตายอย่างสงบ ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้า หรือจนดั่งยาจก สุดท้ายก็ต้องตายเหมือนกัน จะเป็นเงินทอง ทรัพย์สมบัติ หนี้สิน อำนาจ หรือ ความต้อยต่ำ ก็นำติดตัวไปมิได้ มีเพียงกรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้น ที่เป็นตัวกำหนดเส้นทางการไปต่อของจิต ตามหลัก “กฎแห่งกรรม”
ฉาย บุนนาค กล่าวต่อว่า ขอเหตุโศกนาฏกรรมนี้เป็นเครื่องเตือนสติเราอีกครั้ง ให้ระลึกถึง “ความตาย” อยู่ทุกขณะ และใช้ชีวิตต่อไปอย่าง “ไม่ประมาท” ดั่งคำสอนของ “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” ที่ว่า “เกิดมาแล้ว ก็แก่ เจ็บ ตาย แต่ก่อนจะตาย ทานยังไม่มี ก็ให้มีเสีย ศีลยังไม่เคยรักษา ก็รักษาเสีย ภาวนายังไม่เคยเจริญ ก็เจริญให้พอเสียจะได้ไม่เสียที ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาด้วยความไม่ประมาท นั่นล่ะจึงจะสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน”
คำว่า “ไม่ประมาท”ในที่นี้คงไม่ได้แปลว่า นั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่กับบ้านตลอดเวลา แต่หมายถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสติ เร่งหมั่นศึกษาธรรม สร้างบุญ ทำความดี ไม่ใช่หายใจทิ้งไปวันๆ หรือมัวแต่สร้างกรรมชั่ว เบียดเบียนประเทศชาติและเพื่อนร่วมโลก
สุดท้ายนี้ ขอร่วมไว้อาลัยและขอดวงวิญญาณ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา และผู้เสียชีวิตทุกราย” ไปสู่สุขคติ กับอีกหนึ่งคำสอนของ “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” เพื่อเตือนใจตนเองที่ว่า “จะเอาอะไรมาเพิ่มอีก...ก็ถ้าหากตายไปในวันนี้วันพรุ่งนี้ สิ่งต่างๆ ที่เคยมีและผ่านเข้ามา ตะเกียกตะกายดิ้นรนไขว่คว้า ทุกอย่างก็จะเป็นเพียงแค่ สิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ของเรา”...
ที่มา : คอลัมน์ ฉาย บุนนาค หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เดินเครื่องรุกเต็มสูบ!! บอร์ด NMG อนุมัติแต่งตั้ง "ฉาย บุนนาค" นำทัพเนชั่นกรุ๊ป - Tnews
- ฉาย บุนนาค : จากอุบัติเหตุ “เฮลิคอปเตอร์” ตก และ “ความไม่เที่ยงของชีวิต” - Springnews
- "ฉาย บุนนาค" คุมทัพเนชั่นกรุ๊ป ประกาศพลิกฟื้นองค์กร - NationTV